ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #”มาร์ค”ไล่ส่งใครหนุน”บิ๊กตู่”อย่าอยู่ปชป.

#”มาร์ค”ไล่ส่งใครหนุน”บิ๊กตู่”อย่าอยู่ปชป.

2 April 2018
448   0

ประชาธิปัตย์ยืนยันสมาชิกวันแรกคึกคัก “มาร์ค” ประกาศจุดยืนใครหนุ่น “บิ๊กตู่” ไปที่อื่น พท.ทยอยยืนยันสมาชิก “บิ๊กป้อม” ลั่นไม่โง่ น้อยใจเป็นเหยื่อเตะขานายกฯ

เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค และอดีตส.ส.ของพรรค เดินทางลงทะเบียนยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคที่เปิดเป็นวันแรกที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 เรื่องพรรคการเมืองว่า ให้สมาชิกพรรคมีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิกต่อพรรคการเมือง และชำระค่าบำรุงพรรคภายใน 30 วัน ตามกำหนดคือวันที่ 30 เมษายน ถ้าเกินกำหนดแล้วไม่มายืนยันการเป็นสมาชิกพรรคจะถือว่าบุคคลนั้นสิ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรค

ปชป.ยืนยันสมาชิกวันแรกคึก

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พรรคได้จัดเตรียมเต็นท์โดมติดแอร์ที่ตั้งขึ้นชั่วคราวไว้บริการที่ีบริเวณลานจอดรถของพรรค โดยนายอภิสิทธิ์ ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนบาร์โค้ดในบัตรประชาชนที่ยึดเลข 13 หลักพร้อมชำระเงินค่าสมาชิก 2,000 บาทเป็นสมาชิกประเภทตลอดชีพ จากนั้นแกนนำพรรค อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาฯ พรรค นายกรณ์ จาติกวณิช นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตส.ส.กระบี่ รวมทั้งอดีตแกนนำกปปส. อาทิ นายอิสระ สมชัย นายวิทยา แก้วภราดัย นายถาวร เสนเนียม พร้อมทั้งอดีตส.ส. และสมาชิกพรรค ทยอยยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคกันอย่างเนืองแน่นเนื่องจากเป็นวันแรกที่เปิดให้พรรคการเมืองสามารถยืนยันสมาชิกเดิม

ส่วนสมาชิกพรรคปชป.กว่า 500 คน เดินทางมารอขอยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค โดยบางคนมารอตั้งแต่เวลา 05.00 น. เพื่อขอยืนความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

มาร์คลั่นหาสมาชิกให้ได้มากที่สุด

จากนั้นเวลา 10.00 น. ที่ชั้น 3 อาคาร ร.ม.ว.เสนีย์ ปราโมช นายอภิสิทธิ์ แถลงชี้แจงต่อสมาชิกพรรคในหัวข้อเรื่อง “อนาคตประชาธิปัตย์ อนาคตประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า การจะให้สมาชิกพรรคยืนยันตัวตนเป็นสมาชิกกับพรรคต่อเราต้องบอกแนวทางให้รู้ว่าทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่จะเดินไปทางไหนเพื่อให้มาร่วมทางกับเรา วันที่ 6 เมษายน พรรคจะมีอายุ 72 ปี ที่ผ่านมาอุดมการณ์ชัดเจนไม่เคยเปลี่ยน ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ แต่ด้วยสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปพรรคจึงต้องปรับตัวให้ทันโลกาภิวัตน์ และจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนสับสนในบทบาทของพรรคการเมือง พรรคจึงยืนยันยึดอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่โปร่งใส เดินหน้าสร้างพรรคปชป.ยุคใหม่โดยพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง

“จากนี้จะเดินหน้าระดมสมาชิกให้ได้จำนวนมากที่สุด พยายามทุกวิถีทางให้สมาชิกเดิม 2.5 ล้านคนกลับมายืนยันให้มากที่สุด และเมื่อคสช.ปลดล็อก จะเดินหน้าหาสมาชิกให้ได้มากที่สุด และพยายามให้มีสาขาพรรคให้มากที่สุด เพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนจะได้เป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง และจะเขียนข้อบังคับพรรคให้ที่ประชุมใหญ่เคารพการตัดสินใจของสมาชิกที่จะสามารถหยั่งเสียงในการเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรงรวมทั้งจะให้สมาชิกมีโอกาสร่วมร่างนโยบายพรรคด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

กร้าวสมาชิกต้องหนุนหน.พรรค

จากนั้นเวลา 10.45 น. นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงนโยบายพรรคว่า ทำตามเจตนารมณ์จากการยืนยันสมาชิกพรรคควรจะรู้ว่าแนวคิดเป็นอย่างไร ซึ่งในคำสั่ง เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ระบุไว้ สำหรับแนวทางของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่มีเรื่องของนายกฯ คนนอกนั้น หัวใจสำคัญต้องการให้บ้านเมืองเดินไปทางไหน สิ่งที่แถลงนโยบายไปว่า ปชป.ยุคใหม่ ต้องการนำพาบ้านเมืองไปทางไหน นั่นคือสิ่งที่พรรคไปขอความสนับสนุนจากสมาชิกและประชาชน ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งวันนี้ปชป.ต้องการจะเป็นหลักในการเดินหน้าทำงาน

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการยืนยันเป็นสมาชิกพรรคของสมาชิกที่เป็นกปปส. ว่ายืนยันว่านอกจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ ที่ลาออกไป และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ฯ ที่แสดงเจตนาว่าจะเป็นผู้ไปจดแจ้งพรรคการเมืองใหม่ ก็ยังไม่มีอดีตส.ส.ท่านอื่น มาบอกว่าจะไม่มาร่วมงานกับเรา และเท่าที่สังเกตวันนี้หลายท่านก็มายืนยันแล้ว บางท่านที่มายืนยันไม่ได้เนื่องจากไปบวช แล้วพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ก็ต้องรอสมัครสมาชิกพรรคใหม่

ไล่ใครหนุน “บิ๊กตู่” ขอให้ไปที่อื่น

“ยืนยันว่าสมาชิกพรรคปชป.ก็ยังสนับสนุนหัวหน้าพรรคปชป.อยู่แล้ว ส่วนใครที่จะออกนอกแถวไปสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ให้ไปทางเลือกอื่น ไม่ต้องมาที่นี่ เพราะมีพรรคอื่นรองรับเยอะแยะ ถ้าจะอยู่กับพรรคปชป.ก็ต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรค ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งความเป็นไปได้ที่พรรคปชป.จะสนับสนุนทหารเป็นรัฐบาลนั้นต้องไปดูว่าทหารเข้ามาได้อย่างไร และมีกี่เสียง” หัวหน้าพรรคปชป.กล่าว

เมื่อถามว่ามีการยืนยันว่าจากสมาชิกของพรรคที่มีอยู่กว่า 2.5 ล้านคน จะเหลือเพียงแค่แสนคน จะเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พยายามให้ได้มากที่สุด ซึ่งทุกคนทราบดีว่าการออกกฎหมายเช่นนี้ ระยะเวลาการให้ความชัดเจนในบางเรื่อง ทุกคนทราบดีว่ามีอุปสรรคอะไร หากวันหนึ่งบ้านเมืองถึงวิกฤติและจำเป็นต้องให้ทหารอยู่ในอำนาจต่อจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องบอว่าการจะเดินหน้าที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง คือ การที่ทุกคนต้องรักษาคำพูดเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ถ้ามีการทำอะไรที่ประชาชนมองว่าบิดพลิ้วหรือไม่เป็นไปตามสิ่งที่บอกกับประชาชนก็จะเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้ง จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้

เผยยอดสมาชิกวันแรก 1,308 คน

ด้านน.ต.สุธรรม ระหงส์ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังเปิดรับการลงทะเบียนยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค วันแรกว่า ยอดสรุปผู้ที่มาแสดงตนดังกล่าวเมื่อเวลา 16.00 น. มีจำนวน 1,308 คน แบ่งเป็นสมาชิกตลอดชีพจำนวน 556 คน และสมาชิกแบบรายปี 752 คน รวมเงินค่าบำรุงพรรคทั้งสิ้น 1,187,200 บาท โดยตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน เป็นต้นไป สมาชิกพรรคยังมาสามารถมาลงทะเบียนดังกล่าวได้ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตาม พรรคพบปัญหาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นกรณีที่บางคนนำบัตรมายืนยันว่าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อไปตรวจสอบฐานข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่ามีชื่อเป็นสมาชิกพรรคอื่นด้วย จึงยังไม่สามารถลงทะเบียนกับเราได้ ต้องไปลาออกจากพรรคอื่น และต้องรอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุญาตให้พรรคการเมืองเปิดรับสมาชิกใหม่ คนเหล่านี้จึงจะมาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

“เอกนัฏ-พุทธิพงษ์ยัน” ยังอยู่ปชป.

ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำกปปส. ให้สัมภาษณ์ถึงการมาแสดงตัวเพื่อยืนยันจุดยืนการทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป ว่ามาที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อยืนยันการทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่สามารถยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคได้ เพราะขาดสมาชิกภาพตั้งแต่ตอนที่บวชจึงต้องรอจนกว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะปลดล็อก ทั้งนี้แม้เคยร่วมอุดมการต่อสู้เคลื่อนไหวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส. แต่ไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ เพราะภารกิจนั้นสิ้นสุดลงหลังจากที่มีการรัฐประหาร ซึ่งผู้ที่เคยร่วมต่อสู้ก็สามารถสานต่อเจตนารมณ์ตามความถนัดของแต่ละคน ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคเก่าหรือตั้งพรรคใหม่ โดยทุกคนทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่มีอะไรบาดหมางกัน ถือเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองไหน

“ผมยืนยันว่าอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และจะสานต่อเจตนารมณ์ของพรรคที่จะร่วมกันปฏิรูปเปลี่ยนแปลงพรรคให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ตามที่หัวหน้าพรรคประกาศไว้ โดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำกปปส. กล่าวว่า แม้ตนกลับมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังเดินหน้าการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง

เพื่อไทยเตรียมพื้นที่รับสมาชิกวันนี้

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวสำหรับการเปิดรับเอกสารยืนยันความเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย (พท.) วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันแรกในการเปิดยืนยันสมาชิก โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคพท. กล่าวว่า ได้จัดบริเวณชั้นล่างของที่ทำการพรรค คือบริเวณส่วนด้านหลังห้องสมุดชินวัตรไว้รับสมาชิก เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้างขวางพอสมควร สามารถจุคนได้หลักร้อย แต่หากมามากเกินกว่านั้นก็ไม่มีปัญหา เราสามารถเปิดขยายพื้นที่ได้ นอกจากนี้เรายังจัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำตลอดช่วงเวลา และอาจมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นนักการเมืองผลัดกันมานั่งประจำจุดเพื่อคอยให้ความรู้แก่สมาชิกด้วย

ต่างจังหวัดทยอยยืนยันตัวตน

ส่วนบรรยากาศการยืนยันสมาชิกพรรคเพื่อไทยตามพื้นที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด พบว่าสมาชิกพรรคต่างทยอยเดินทางมาแสดงตัวตน โดยที่ จ.เชียงราย พื้นที่เขต 1 นางกาญจนรัตน์ ไทยมี เป็นสมาชิกพรรครายแรกที่มายืนยันการเป็นสมาชิกพรรคพร้อมทั้งชำระค่าบำรุง 100 บาทที่สำนักงานอดีตส.ส.ของนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย

นอกจากนี้ จ.อุดรธานี ก็มีสมาชิกพรรคมาแสดงตนที่สำนักงานอดีตส.ส.ของนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีตส.ส.อุดรธานี เช่นเดียวกับที่สำนักงานอดีตส.ส.ของนายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ อดีตส.ส.ศรีสะเกษ ขณะที่ในส่วนของสำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทยนั้น พรรคจะเปิดให้สมาชิกเข้ามายืนยันความเป็นสมาชิกได้ในวันที่ 2 เมษายน เป็นต้นไป ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.

“บิ๊กป้อม” ชี้เป็นเหยื่อเตะขานายกฯ

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการครอบครองนาฬิกาหรูที่ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าขอย้ำถึงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องดังกล่าว ส่วนใครจะคิดอย่างไรตามกระแสก็คิดไป เพราะความจริงคือความจริง ไม่มีวันหนีไปจากความจริงได้ ไม่เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะขอรอดูต่อไปว่าสังคมจะมองเรื่องที่เกิดตามกระแสมากกว่าข้อมูลข้อเท็จจริงหรือไม่ ทั้งนี้อาจพลาดที่ไม่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจตั้งแต่ต้น เพราะคิดว่าไม่มีอะไร จึงทำให้สังคมเข้าใจอะไรที่คลาดเคลื่อนมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ขอย้ำว่าพร้อมยอมรับกับคำตัดสินของป.ปช.ไม่ว่าจะมีผลออกมาเป็นอย่างไร

“ผมไม่ได้โง่นะ ผมรับราชการมานาน เป็นรัฐมนตรีมากี่สมัยแล้ว ทำไมผมจะไม่รู้เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่นี่เพราะเป็นนาฬิกาของเพื่อนยืมเวียนมาใช้ ซึ่งเขามี 200-300 เรือน เป็นเศรษฐีหมื่นล้านและชอบสะสมนาฬิกา ก็แค่นั้น ผมยืมมาจริงๆ มันน่าน้อยใจไหม ผมเป็นแค่เหยื่อของกระเเสจากฝ่ายตรงข้ามที่หยิบยกมาโจมตีเพื่อเตะขาท่านนายกฯ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

Cr.nation

สำนักข่าววิหคนิวส์