อีกเรื่องที่เป็นการตรวจสอบความไม่โปร่งใสเช่นกัน และเป็นประเด็นที่ “ล่าความจริง” เปิดขึ้นมาเป็นสื่อแรก คือโครงการติดตั้ง “ตู้กรองน้ำครึ่งล้าน” ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.
ที่ต้องเรียกแบบนี้เพราะตู้กรองน้ำฯที่ว่านี้เป็น “ตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์” สนนราคาอยู่ที่ตู้ละ 549,000 บาท ศอ.บต.จัดซื้อและติดตั้งล็อตแรกในปีงบประมาณ 2560 จำนวน 93 ตู้ งบประมาณ 51 ล้านบาทเศษ หลังจาก “ล่าความจริง” เสนอข่าวนี้ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า ทำไมตู้กรองน้ำถึงราคาแพงนัก ทำให้รัฐบาลสั่งการให้มีการตรวจสอบ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ศอ.บต.ก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา 1 ชุด
เอกสารคำสั่งของเลขาธิการ ศอ.บต. คุณศุภณัฐ สิรันทวิเนติ ที่ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง “โครงการติดตั้งตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์” โดยตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 3 ประเด็น คือ จัดซื้อในราคาสูงเกินจริงหรือไม่ วิธีการจัดซื้อที่ใช้ “วิธีพิเศษ” ไม่ต้องมีการประกวดราคา ขัดต่อระเบียบกฎหมายหรือไม่ และโครงการนี้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้หรือไม่ แต่หลังจากที่คำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯเผยแพร่ออกไป ก็มีการตั้งคำถามจากหลายฝ่ายว่า ประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ มีตำแหน่งเพียงผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. และกรรมการที่เหลืออีก 6 คนก็เป็นข้าราชการใน ศอ.บต.ทั้งหมด แล้วอย่างนี้จะกล้าสอบสวนผู้บังคับบัญชาของตนเองได้อย่างไร โดยเฉพาะการจัดซื้อ “วิธีพิเศษ” ซึ่งผู้มีอำนาจลงนามคือ เลขาธิการ ศอ.บต.
“ล่าความจริง” พยายามสอบถามเรื่องนี้ไปยัง ศอ.บต. แต่ก็ไม่มีคำตอบ จึงได้ไปสอบถามกับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ คปต. กำกับดูแล ศอ.บต.โดยตรง พลเอกประวิตร ตอบคำถามนักข่าวว่า เรื่องตู้กรองน้ำฯ อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ซึ่งมีเวลา 30 วัน ส่วนการจัดซื้อวิธีพิเศษ ต้องกลับไปถาม ศอ.บต.ว่าเหตุใดจึงต้องจัดซื้อวิธีพิเศษ
พลเอกประวิตร บอกว่าเรื่อง “ตู้กรองน้ำครึ่งล้าน” อยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนฯที่ ศอ.บต.ตั้งขึ้น มีกรอบเวลา 30 วัน แต่จริงๆ แล้วถ้าย้อนดูคำสั่งตั้งคณะกรรมการฯ จะพบว่า คำสั่งนี้ลงนามวันที่ 30 มีนาคม กำหนดให้สอบให้เสร็จภายในวันที่ 10 เมษายน แสดงว่ามีกรอบเวลาการสอบสวนแค่ 12 วันเท่านั้น ไม่ใช่ 30 วัน ฉะนั้นผลสอบเรื่องนี้ต้องออกก่อนวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ส่วนที่ พลเอกประวิตร บอกว่า ต้องกลับไปถาม ศอ.บต.ว่าทำไมถึงจัดซื้อ “ตู้กรองน้ำครึ่งล้าน” ด้วยวิธีพิเศษ
เอกสารที่ ศอ.บต.ทำถึง พลเอกประวิตร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล ศอ.บต. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 59 เพื่อขอโอนงบประมาณปี 60 ที่เหลือจ่ายจากโครงการ “ดาต้า เซ็นเตอร์” ของ ศอ.บต. ไปใช้ในโครงการเร่งด่วน 4 โครงการ ซึ่ง ศอ.บต.ไม่ได้ตั้งงบเอาไว้ และ 1 ใน 4 โครงการ คือ โครงการติดตั้งตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 93 จุด ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้งบประมาณ 51 ล้านบาทเศษ โดย ศอ.บต.อ้างว่าเป็นโครงการ “จำเป็นเร่งด่วน” ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคุณผู้ชมลองดูตอนท้ายเอกสาร (หน้า 2) ปรากฏว่าผู้ที่ลงนามอนุมัติให้โอนงบประมาณได้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น พลเอกประวิตร เอง และการที่ ศอ.บต.ทำหนังสือมาขออนุมัติดำเนินโครงการที่ไม่ได้ตั้ง “งบประจำ” เอาไว้ และต้องโอนงบจากส่วนอื่นมา ก็แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่า ต้องจัดซื้อวิธีพิเศษ
สรุปว่าคำถามนี้ใครต้องตอบ ระหว่าง ศอ.บต. กับท่านรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และที่สำคัญ คณะกรรมการสอบสวนฯที่มีประธานเป็นเพียงผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. จะสอบสวนเรื่องนี้ออกมาอย่างไร ผลแทบไม่ต้องเดาเลย…
Cr.nation.tv
สำนักข่าววิหคนิวส์