ไลฟ์สไตล์ » #สามีเห็นภรรยา ”เริ่มอ้วน เริ่มขี้เหร่”เลยขอหย่า สุดท้ายคิดได้ #แต่มันสายไปแล้ว

#สามีเห็นภรรยา ”เริ่มอ้วน เริ่มขี้เหร่”เลยขอหย่า สุดท้ายคิดได้ #แต่มันสายไปแล้ว

7 April 2018
729   0

จะพาเพื่อนๆไปชม เรื่องราวของการใช้ชีวิตคู่ ไม่ได้ดูกันที่ว่า หน้าตาสวยงาม และหล่ออย่างเดียว เพราะสิ่งเหล่านี้ยังไงมันก็ไม่แน่นอน เพราะคนเราต้องแก่ไปทุกวัน แต่สิ่งที่จะทำให้ความรักยั่งยืนที่สุดนั้น เป็นเรื่องของจิตใจข้างในมากกว่า หากเรามองข้ามเรื่องหน้าตา เราก็จะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวลอะไร!!

อย่างเรื่องนี้เป็นต้น ที่หนุ่มคนนี้ เขามองความสวยงามจากภายนอกของภรรยาอย่างเดียว แต่พอเธอจะจากไป กลับคิดได้ ว่าที่แท้จริงแล้วนั้น เขาต้องการความรักที่มาจากจิตใจข้างในมากกว่า อยากให้คนที่กำลังใช้ชีวิตคู่ หรือว่ามีคู่อยู่แล้ว ให้มองข้ามเรื่องเหล่านี้ไปดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น ความรักของเราจะต้องอายสั้นแน่นอน หากคาดหวังจะคบกับคนเฉพาะที่หน้าตาอย่างเดียว ลองมาดูตัวอย่างจากเรื่องต่อไปนี้

เรื่องนี้เรื่องอุทาหรณ์สอนใจสำหรับใครหลายคน คนเรานั้นเมื่อได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา พอมีเงินมีอะไรดีขึ้น ความรักก็เริ่มถดถอยลงไป อยากมีใครใหม่เข้ามาสักคน อย่างเช่นเรื่องราวของชายคนนี้ ที่เขานั้นเกือบที่จะเสียคนรักไปแล้ว เขาเริ่มจากการทำงานเป็นช่างปูนจนๆคนหนึ่ง และค่อยๆ ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าช่างปูน ในเวลาไม่นานเขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งในขณะนี้บริษัทก่อสร้างของเขาเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงพอสมควร และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดสิ่งยั่วยวนใจเขา

ภรรยาช่างปูนจนๆคน นี้ คอยดูแลสามีมาตลอดหลายปี จากหุ่นที่ผอมเพรียวเริ่มอ้วน ผิวพรรณที่เคยเนียนนุ่มก็เริ่มเหี่ยวลงทุกวัน ผิวพรรณที่หยาบกร้านทำให้เขารู้สึกแย่เมื่อเทียบภรรยากับผู้หญิงคนอื่น ลักษณะรูปร่างของภรรยาทำให้เขารู้สึกเบื่อ และเมื่อเห็นภรรยาเขาก็คิดถึงแต่เรื่องในอดีตช่วงชีวิตที่ลำบากและจน

เขา คิดว่าชีวิตคู่ของเราทั้งสองคงจะหยุดลงได้แล้ว เขาฝากเงินในบัญชีให้ภรรยาเขา 100 ล้านหยวน เพียงพอต่อการซื้อบ้านใหม่ในเมือง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ เขาวางแผนชีวิตในอนาคตของภรรยาไว้ หากเขาไม่ทำเช่นนี้จะรู้สึกแย่ ไม่อยากให้ภรรยาต้องลำบาก….. ในที่สุดก็ขอหย่ากับภรรยา

เธอ รับฟังข้อเสนอของเขาด้วยแววตาที่สงบและถ่อมตน เมื่อถึงเวลาที่เธอต้องย้ายออกไปอยู่บ้านที่สามีซื้อไว้ให้แล้ว ช่วงบ่ายโมงเขาก็กลับมาช่วยภรรยาย้ายบ้าน และเป็นการจบในการใช้เวลาอยู่ร่วมกันมา20กว่าปี ตลอดช่วงเช้าเขาทำงาน ด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น พอถึงตอนบ่ายเขารีบกลับบ้านก็พบว่าภรรยาได้ออกจากบ้านแล้ว เธอวางกุญแจบ้านที่เขาซื้อให้กับสมุดบัญขีที่ฝากไว้ให้จำนวน100 ล้านหยวน พร้อมจดหมายที่เขียนข้อความไว้ว่า !!

ฉันไปแล้วนะ ฉันจะกลับไปบ้านแม่ฉัน

ผ้าปูเตียงซักเสร็จและตากแห้งหมดแล้ว พับเก็บไว้ที่ห้องเก็บแต่งตัวมุมขวาของตู้ อากาศหนาวก็อย่าลืมเอาออกมาใช้นะ

เสื้อเชิตแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ถุงเท้า เข็มขัดเก็บไว้ชั้นล่างของตู้เสื้อผ้านะ

หลังจากที่ฉันไปแล้วอย่าลืมกินยา กระเพาะคุณไม่ค่อยดี ฉันฝากให้เพื่อนซื้อยาไว้ให้คุณน่าจะพอกินถึงครึ่งปี

อ่อ!ยังมีอีกเรื่อง คุณชอบลืมกุญแจบ้านเป็นประจำ ฉันเลยฝากกุญแจสำรองไว้ที่ป้อมยาม ถ้าลืมก็ไปเอาที่ป้อมยามได้

ตอนเช้าก่อนออกไปทำงานอย่าลืมปิดหน้าต่าง เพราะถ้าฝนตกจะสาดเข้าบ้านทำให้พื้นบ้านเปียกและเสียได้

ฉันทำเกี๊ยวที่คุณชอบอยู่ในห้องครัว กลับมาก็ต้มกินเองได้นะ…..

ตัวหนังสือของเธอในจดหมายเขียนได้ขี้เหร่มาก แต่ตัวหนังสือทุกตัวที่แสดงถึงความจริงใจสุดซึ้ง ทำให้เขารู้สึกเจ็บตรงหัวใจ

เขา นั่งมองเกี๊ยวที่ห่อเก็บไว้ให้เขา ทำให้เขานึกถึงเมื่อ 20 ปีก่อน ช่างปูนจนๆคนหนึ่ง นึกถึงเสียงสับผักที่เตรียมห่อเกี๊ยวให้เขา ทำให้เขามีความสุขและสัญญากับตัวเองไว้ว่า : ฉันจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุขที่สุด…..

เขารีบขับรถออกไปตามหาภรรยาทันที หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงเขาก็เจอภรรยาที่สถานีรถไฟ ร่างกายเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

เขา พูดด้วยความโมโหว่า : “คุณจะไปไหน ผมเพิ่งเลิกงาน เหนื่อยมาทั้งวันกลับบ้านยังไม่ได้กินข้าว หน้าที่ภรรยาเขาทำกันแบบนี้หรือไง? ตามผมกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ! ”

ภรรยาเขาน้ำตาคลอ ค่อยๆลุกขึ้นและเดินตามหลังเขาไป จากรอยน้ำตากลายเป็นรอยยิ้ม

แต่ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายที่เดินอยู่หน้า ตอนนั้นร้องไห้หนักมาก….ชายคนนี้กลัวมากขณะที่ขับรถมาที่สถานีรถไฟ เขากลัวว่าจะหาเธอไม่เจอ กลัวจะสูญเสียเธอไปตลอดชีวิต

เขาด่าและโทษ ตัวเองว่าทำไมถึงโง่แบบนี้ ทิ้งผู้หญิงที่เขารักมาก ผู้หญิงที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา 20 กว่าปี ซึ่งมันกลายเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้

ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่จำนวนเงินในสมุดบัญชี แต่มันคือรอยยิ้มของคนที่รักต่างหาก

Cr. Playplay

สำนักข่าววิหคนิวส์