9 พฤษภาคม 2561
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน www.mallikafoundation.com กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี น่าจะมีปัญหาทางด้านทัศนคติต่อประชาชนเกษตรกรและคนจนหรือแม้แต่องค์กรพัฒนาเอกชน เช่น P-move ที่เป็นผู้ประสานงานปัญหาเกษตรกรคนจนเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล การสบถ กร่นด่า แสดงความไม่พอใจของนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้นำประเทศอย่างยิ่ง
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่เป็นประโยชน์และผลดีต่อทั้งประเทศชาติ ต่อประชาชนและต่อตัวพลเอกประยุทธ์เองและรัฐบาล เพราะพฤติกรรมนายกรัฐมนตรีจะนำไปสู่ความแตกแยก สร้างความไม่พอใจต่อประชาชนและภาคประชาชน จะกลายเป็นชนวนให้บ้านเมืองนำไปสู่ความไม่ลงรอยกัน
เป็นนายกฯต้องจริงใจต่อกันแก้ไขปัญหาเกษตรกรไม่ใช่รำคาญ สบถ กร่นด่า คนที่นายกฯต้องด่าคือทีมนายกฯเอง คือกรรมการฯผู้ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ที่ทำอะไรไม่เป็นแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ” นางมัลลิกา กล่าว
นางมัลลิกา กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่ม P-move กับเครือข่ายเกษตรเพื่อทวงถามการแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำและปัญหาที่ดิน เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องเอาใจใส่หาก 4 ปีคุณละเลยเพิกเฉยไม่เคยใส่ใจปัญหาก็เท่ากับว่าไม่เคยเข้าไปแก้ไขปัญหา นายกรัฐมนตรีมัวมาคิดว่าได้ตั้งคณะกรรมการฯเข้าไปตรวจสอบแล้วแต่ต้องคิดให้ได้ไว้กรรมการฯเหล่านั้นไม่มีอำนาจที่จะไปทำอะไรได้ก็เปล่าประโยชน์ แก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ เพราะเหล่านี้เป็นสิ่งที่ระดับนายกรัฐมนตรีจะต้องเอาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาแก้ไขเพราะมันเป็นเรื่องของอำนาจจัดการ การจัดการก็ต้องใช้คำสั่งครม.แต่ไม่ใช่ไปสั่งให้กระทรวงตั้งกรรมการซ้อนขึ้นมาแก้ปัญหาศึกษาปัญหาซ้ำอีกยืดเวลาอีกต่อไป ก็กลายเป็นทุกข์ของประชาชนซ้ำซาก
ข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรไม่ได้เกินจริงทั้งเรื่องเกี่ยวกับการขอให้ใช้อำนาจแก้ไขปัญหาเกษตรกรขาดที่ดินทำกินก็สามารถแก้ได้ด้วยวิธีการตั้งธนาคารที่ดินให้เป็นรูปธรรมดำเนินงานต่อและกรณีของการออกโฉนดชุมชนเพื่อให้เกษตรกรชาวบ้านใช้ร่วมกันโดยไม่มีการขายก็จะทำให้แก้ปัญหาได้
กรณีที่ขอให้รัฐส่งมอบพื้นที่โฉนดชุมชนที่ผ่านความเห็นชอบ เพื่อจัดตั้งให้มีโฉนดชุมชน ,ให้รัฐผลักดันร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า เพื่อเป็นมาตรการแก้ปัญหาการกระจุกตัวที่ดิน,ให้รัฐยุติแผนแม่บททวงคืนผืนป่า เพราะก่อให้เกิดผลกระทบต่อคนจนและเกษตรกรรายย่อย ,กรณีขอให้สั่งการเร่งด่วนเพื่อจัดหาที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรบ้านวังตะเคียน อ.แม่สอด จ.ตราด 6 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายเขตเศรษฐกิจแม่สอด ทดแทนการจ่ายเงินเยียวยาโดยทันที
เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกินอำนาจของรัฐมนตรีประจำสำนักนายก และอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่เหตุใดนายกฯจึงไม่เอาใจใส่ข้อเรียกร้อง ทุกข์เข็นของเกษตรกร และยังเป็นสิทธิ์ของเกษตรกรที่เขาสามารถที่จะเรียกร้องได้เพราะมีระเบียบมีกฎหมายรองรับอยู่แล้วเพียงแต่ทีมของนายกฯไม่รู้เรื่องเหล่านี้
สำนักข่าววิหคนิวส์