28 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การควบคุมตัวนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ ซ่องโจร และปลอมพระปรมาภิไธย ได้รับการเปิดเผยจาก นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า ได้มีการแยกอดีตพระพุทธะอิสระและนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กระจายไปคุมขังยังแดนต่างๆ เพื่อความเหมาะสม และลดการเผชิญหน้า โดยวันนี้ อดีตพระพุทธะอิสระ ขณะนี้ทราบว่า ตอนนี้มีอาการปวดหลังค่อนข้างมาก ต้องนั่งรถเข็นตลอด เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. โฆษกตร. กล่าวถึงกรณีสังคมวิพากษ์วิจารณ์คลิปวิดีโอที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามนำกำลังบุกจับ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ว่า เจ้าหน้าที่บุกจับรุนแรงเกินไป ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าอย่างรอบคอบ และรัดกุม เพื่อให้ไม่เกิดการประทะ หรือเกิดการสูญเสีย ทำยุทธวิธีให้รัดกุมมากที่สุด เนื่องจากภายใน กุฏิ ของ อดีตพระพุทธะอิสระ มีพื้นที่ที่ห้ามคนนอกเข้า แต่จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ พบว่า พื้นที่บริเวณนั้น มีการ์ดของ กปปส. อาศัยอยู่ และพบว่ามีอาวุธร้ายแรงจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง จึงวางแผนใช้เจ้าหน้าที่ชุดที่มีอาวุธติดตัว นำกำลังเข้าจับกุม เพื่อป้องกันตัว
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า เมื่อไปถึงด้านในกุฏิ ของอดีตพระพุทธะอิสระ ไม่พบว่าจะมีการต่อสู้ จึงได้ลดอาวุธ และอ่านหมายจับให้ฟัง ก่อนจะเชิญตัวอดีตพระพุทธะอิสระ มารับทราบข้อกล่าวหาที่ กองบังคับการปราบปราม ส่วนตัวเมื่อมีกระแสว่า ใช้ความรุนแรงเกินไป จึงมีการเรียกร้องให้ มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งย้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และฝ่ายอำนวยการที่เกี่ยวข้องกับชุดปฎิบัติการ คิดว่า เจ้าหน้าที่ทำตามยุทธวิธีอย่างถูกต้องแล้ว จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ
ขณะที่ พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มการเมืองตั้งข้อสังเกตเรื่องนายกรัฐมนตรีกล่าวขอโทษประชาชนแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธอิสระ เป็นการเลือกปฏิบัติ หรือมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันว่า การกล่าวขอโทษของนายกฯ ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ขอโทษ เพราะเจ้าหน้าที่ทำไม่เหมาะสม ไม่ว่า ผู้ต้องหาจะเป็นใครก็ตาม เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วจะถูกตัดสินโดยศาล
“นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวใด ๆ กับนายสุวิทย์ และไม่เคยคิดนำเรื่องส่วนตัวไปปะปนกับการบริหารบ้านเมือง ขอย้ำว่า รัฐบาลยึดหลักกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย หากกระทำผิดต้องได้รับโทษเช่นเดียวกัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดคณะลูกศิษย์ได้รวมตัวกันหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพเพื่อขอเข้าเยี่ยมพุทธะอิสระ โดยมีท่านจันทร์ ศิษย์สันติอโศก นำบรรดาลูกศิษย์เข้าเยี่ยมด้วย