ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ดร.สุกิจ ยกฎีกายัน !! คลิปเสียงใช้เป็นหลักฐานได้ แต่…

#ดร.สุกิจ ยกฎีกายัน !! คลิปเสียงใช้เป็นหลักฐานได้ แต่…

1 June 2018
699   0

ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ได้โพสข้อความระบุว่า การรับฟังพยานผู้เชียวชาญ. คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะอ้างบุคคลใดเป็นพยานของตนก็ได้เมื่อบุคคลนั้นเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในศิลป วิทยาศาสตร์ การฝีมือ การค้า หรือการงานที่ทำหรือในกฎหมายต่างประเทศ และซึ่งความเห็นของพยานอาจเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยชี้ขาดข้อความในประเด็นทั้งนี้ไม่ว่าพยานจะเป็นผู้มีอาชีพในการนั้นหรือไม่ ตามกฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 98

มาตรา ๙๙ ถ้าศาลเห็นว่า จำเป็นที่จะต้องตรวจบุคคล วัตถุ สถานที่หรือตั้งผู้เชี่ยวชาญตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๒๙ และ ๑๓๐ เมื่อศาลเห็นสมควร ไม่ว่าการพิจารณาคดีจะอยู่ในชั้นใด หรือเมื่อมีคำขอของคู่ความฝ่ายใดภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๘๗ และ ๘๘ ให้ศาลมีอำนาจออกคำสั่งกำหนดการตรวจหรือการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเช่นว่านั้นได้ บทบัญญัติแห่งมาตรานี้ไม่ตัดสิทธิของคู่ความในอันที่จะเรียกบุคคลผู้มีความรู้เชี่ยวชาญมาเป็นพยานฝ่ายตนได้ มีปัญหาเรื่องคลิ๊ปเสียงไม่มีภาพฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับว่าเป็นเสียงของตน ย่อมมีน้ำหนักน้อยที่จะรับฟังได้ ชึ่งแตกต่างกับภาพในวีดีโอทัศน์ ชึ่งมีทั้งภาพและเสียงนั้น

ฝ่ายที่อ้างทำอย่างไรก็ได้ที่จะทำให้ศาลเชื่อว่า ตามภาพและเสียงนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง วิธีถามพยานให้ยอมรับนั่น ไม่ใช่เป็นเรื่องยากถ้าทนายความนั้น ทำการบ้าน
ถ้าอีกฝ่ายจะทำลายน้ำหนักภาพและเสียงของตนเองนั่น เป็นกลยุทธถ้าพยานหลักฐานชัดก็ต้องถามให้ศาลสงสัย ภาพนั้นหัวอาจจะใช่
แต่ตัวนั้นไม่ใช่ยิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวยิ่งง่ายต่อการชักค้าน

บอกใบ้ให้ก็ได้หลักวิทยาศาสตร์ของไทยนั้น ยังไม่มีกฏหมายรองรับว่าเป็นมาตราฐานสากลที่ทั่วโลกยอมรับ บางหน่วยงานใช้กล้องส่อพระในการตรวจพยานหลักฐาน ถ้าทนายความมีความเชี่ยวชาญพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์นั้น เชื่อถือไม่ได้เลย

ศาลฎีกา จึงวินิจฉัยว่า ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ. ไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลต้องรับฟังตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2126/2541

สำนักข่าววิหคนิวส์