หลังเปิดตัวตั้งพรรค ประกาศสืบสานปณิธาน กปปส. หลังจากนายสุเทพ เทือกบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เปิดตัวจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมีผู้สนับสนุนพรรค อาทิ นายสุเทพ เทือกบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย นายเชน เทือกสุบรรณ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมือง
นายธานี เทือกสุบรรณ นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย
นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ทนายความ ของนายสุเทพ
น.ส.เพขรชมพู กิจบูรณะ
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค
ที่ประชุมได้ลงมติตั้งคณะทำงาน 5 ด้าน พร้อมทั้งประธานคณะทำงาน ประกอบด้วย
1.คณะทำงานเตรียมการจัดงานประชุมสมัชชาพรรค โดยมีนายจักษ์ พันธ์ชูเพชร เป็นประธาน
2.คณะทำงานยกร่างข้อบังคับพรรค วินัย และมาตรฐานจริยธรรมพรรค โดยมีนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง
3.คณะทำงานยกร่างนโยบายพรรคและโรงเรียนการเมืองพรรค โดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์
4.คณะทำงานเตรียมการจัดตั้ง
สโมสรผู้นำเยาวชนพรรค โดยมีนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน และ
5.คณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมเป็นเจ้าของพรรค โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธาน
ก่อนนายสุเทพ จะขึ้นกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนกำลังนึกถึงคนที่เสียชีวิต นึกถึงพี่น้องประชาชนที่เสียขาตัวเองเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ใฝ่ฝันจะเห็นประเทศเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ใฝ่ฝันเห็นประเทศไทย คนไทยทุกเชื้อชาติศาสนา ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างรู้คุณค่าแผ่นดิน คนไทยเหล่านั้นเสียสละความสุข นอนกลางดินกินกลางถนน ถูกขว้างระเบิด เจ็บเป็นพัน ตายหลายสิบ อยากให้คนเหล่านั้นได้เห็นภาพวันนี้ วันที่พวกเรารำลึกถึงพวกเขาด้วยความเคารพในความเสียยสละ และวันที่คนอย่างพวกเราประกาศสืบสานปณิธานของพี่น้องผู้เสียสละ ไม่ง่ายเลยที่จะสร้างพรรคที่เป็นพรรคของประชาชนชนที่แท้จริงขึ้นในประเทศนี้ ที่ผ่านมามีข่าวดูถูกเราว่าจะมีน้ำยาสักเท่าไรสร้างพรรคการเมืองแข่งกับพรรคที่ยิ่งใหญ่อยู่มาก่อน ถูกวิจารณ์ว่าเป็นพรรค กปปส.
บ้าง พรรคลุงกำนันบ้าง หลายคนให้สัมภาษณ์ปรามาสว่าพรรคแบบนี้ไม่มีทางเกิดหรือโตขึ้นได้ ตนใช้เวลาครุ่นคิด คุยกับผู้คนมา 4 ปี ฟังความคิด ศึกษาการตัดสินใจ และก็ดีใจที่เห็นพี่น้องประชาขนทั้งที่อยู่ในชนบททุกภาคของประเทศ เป็นเกษตรกร ครูประชาบาล ทหาร ตำรวจ พลเรือน ตุลาการชั้นผู้ใหญ่ระดับหัวหน้า อดีตอัยการ คนที่ตนได้พบเห็นพูดตรงกกันว่าวันนี้เป็นโอกาสเดียวที่จะรวมพลังประชาชนมาทำการเมืองเพื่อประเทศ เพื่อประโยขน์สุขของประเทศและแผ่นดิน
“ผมพูดคุยซักถามจนรู้ว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจริง หลายคนไม่คิดว่าจะเข้ามาการเมือง เช่น
ม.ร.ว.จัตุมงคล เป็นข้าราชการปากหนัก ไม่ชอบนักการเมือง แต่ก็เดินเข้ามาหาผมถามว่าจริงหรือเปล่าที่มีคนอยากตั้งพรรคเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
ม.ร.ว.จัตุมงคล
บอกไม่เคยคิดว่าจะมีคนเข้ามาทำแบบนี้ตั้งแต่การต่อสู้ปี 57 สุดท้ายท้านก็มาร่วมเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ผมระวังตัวมากตั้งแต่ตัดสินใจลาออกจากการเป็น ส.ส.เพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชน และประกาศว่าจะไม่เป็น ส.ส.ไม่อยากรับตำแหน่งทางการเมือง แต่เมื่อพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์อยากตั้งพรรคเพื่อประชาชน ผมรู้เลยว่าต้องเข้ามาร่วม แม้ผมรู้ว่าตัวเองจะเป็นจุดด้อยจุดอ่อนของพรรคนี้ ให้คนนำมาโจมตีว่าผมตระบัดสัตย์ ผมขอประกาศเลยว่าจะไม่อยู่เบื้องหลังแต่ผมจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน และผมไม่สนใจคำวิจารณ์เหล่านั้น ผมจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ขออาสาเป็นขี้ข้า เป็นผู้รับใช้ประชาชน ผมจะจะเอาประสบการณ์นักการเมืองกว่า 40 ปี มาร่วมตั้งพรรคของประชาชนให้เกิดขึ้นให้ได้ ทันทีที่ได้รับอนุญาตจาก คสช.ให้รณรงค์ต่างๆ ได้ ผมจะเดินไปทุกจังหวัดทั้่วประเทศด้วยตนเอง ตนไม่มีต้นทุน จะลงทุน 5 หมื่นบาท แล้วจะใช้รองเท่าคู่เดิม เพราะตนยังเก็บรองเท้าคู่เดิมที่เคยเดินขบวน แล้วจะใช้รองเท้าคู่นี้เดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนมาร่วมเป็นสมาชิกพรรค จะไม่ใช่พรรคที่เกิดขึ้นได้เพราะกำนันสุเทพ แต่กำนันสุเทพจะเป็นส่วนหนึ่งของพรรคที่รักชาติ รักแผ่นดินไทย
สำนักข่าววิหคนิวส์