ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #บิ๊กตู่ฉุน! ‘โธ่ ไม่ต้องออกมาคาดจมูกแถลงสร้างภาพหรอก’

#บิ๊กตู่ฉุน! ‘โธ่ ไม่ต้องออกมาคาดจมูกแถลงสร้างภาพหรอก’

1 February 2019
788   0

31 ม.ค.62 – เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในการรับมอบสมุดปกขาวนโยบายเศรษฐกิจฐานรากสู่แนวทางการปฏิบัติ โดยรับฟังข้อเสนอจากตัวแทนกลุ่มบริหารจัดการน้ำชุมชน ตัวแทนเกษตรกรสภาเกษตรแห่งชาติ เกษตรกรรุ่นใหม่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรายย่อย และนักวิชาการ พร้อมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย” พร้อมกล่าวในช่วงท้ายถึงปัญหาฝุ่นละอองขณะนี้ว่า การบริหารทุกอย่างต้องเร่งดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องของการเผาขยะ เผาในที่โล่ง พืชและขยะที่เป็นพิษเผาเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย โรงงานทำได้ไหม ถ้าทำไม่ได้ก็เป็นอยู่อย่างนี้ PM 2.5 ก็มาอยู่อย่างนี้ แต่ส่วนที่หนักที่สุดคือยานพาหนะเกือบทั้งหมด เป็นการเผาไหม้จากเครื่องยนต์ วันนี้ก็มีเสนอมาให้ยกเลิกรถที่วิ่งแล้ว 10 ปี แล้วใครขับรถแค่ 3 ปีบ้าง คนมีหลากหลายอาชีพหลากหลายระดับ แต่ไม่ใช่ว่ารถเก่าจะไม่มีคุณภาพ ต้องดูบริบทของประเทศไทยด้วย ที่จะห้ามหรือจะปิดอะไรก็แล้วแต่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า PM 2.5 วันนี้ตกใจกันทั้งประเทศ ใช่เป็นเรื่องสุขภาพ รัฐบาลก็ค่อยๆแก้ ถ้าแก้โครมเดียวก็เดือดร้อนกันทั้งหมด ใครยอมไหม ไม่ใช้รถทั้งหมด เพราะปัญหามาจากรถมากที่สุด วันนี้ก็แก้ปัญหาตรวจรถวันละ 8-9 พันคัน เขาติดสติกเกอร์แล้ว คันไหนห้ามวิ่ง หลายคนบอกดีแต่พ่นน้ำ ไม่เคยดูเลย คนเขาทำงานแทบตายก็ไม่อยากทำแล้ว ที่ควันดำก็จอดหมดแล้ว ตอนนี้รถที่เข้ามาจากต่างจังหวัดก็ตั้งด่านตรวจ 6 ด้าน รอบกรุงเทพฯ

“สำคัญมีการนำเอาปัญหาฝุ่นผงมาเล่นการเมือง บอกผมสวดมนต์ ผมนี่นะ ทำเป็นแค่นั้นหรอ เพราะถ้ายังเป็นกันอยู่อย่างนี้ก็จะเดือดร้อนกัน วันนี้ต้องปิดโรงเรียนก็ปิดไป ก็โอเคทุกคนบอกปิดก็ปิด ควรปิดตั้งนานแล้ว ฉันล่ะก็เบื่อใจจริงๆ การจะปิดไม่ปิดต้องดูว่าควรหรือไม่ควร ถึงเวลาหรือยัง บางคนบอกไอเป็นเลือดแล้ว ผมก็ถามโรงพยาบาลว่าไอเป็นเลือดเพราะฝุ่นเยอะใช่ไหม เขาก็ตอบไม่ชัด ส่วนใหญ่ที่ไอกันอยู่ และไอมากๆที่เป็นปัญหาก็จะไข้หวัดใหญ่ ผมก็ไม่รู้มันมาจากอะไรกันแน่ แต่โอเคมันมีพิษมีภัยแน่นอน PM 2.5” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่าเขาปิดโรงเรียนเพราะเด็กมีภูมิต้านทานต่ำ ไม่เหมือนผู้ใหญ่ ตนก็เหมือนกัน ทนมาถึงวันนี้ 65 ปีแล้ว แค่นี้ก็เก่งแล้ว เพราะฉะนั้นเด็กต้องดูแลเขาก่อน ดู 2 วันจะได้เรื่องไหม เพราะต้องการให้เด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำเขาปลอดภัย หลายคนก็ออกมาคาดจมูกแถลง โธ่ ไม่ต้องออกมาคาดจมูกแถลงสร้างภาพอย่างนั้นหรอก ไม่ต้อง ดูถ้าท่านมาแล้ว ท่านจะทำอะไรได้บ้าง เสนอมาสิ วันนี้เสนอมา ท่านก็ลองเลือกไปแล้วกัน เสนอมาแต่ละอย่าง ตนก็มีเหมือนที่เขามี แต่ตนจะใช้ได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ต้องคิด จะห้ามรถอย่างไร จะห้ามรถวันคี่ยอมไหม ไอ้คนมีรถคันเดียวก็บอกเห็นแก่ตัว เพราะคนจนมีรถคันเดียว แต่คนรวยประกาศได้ มีรถ 2 คัน จะห้ามรถได้ไหม ให้ใช้รถขนส่งมวลชนแล้วใช้กันไหม ทุกคนมีปัญหาหมด ในฐานะเป็นรัฐบาลตนมีประชาธิปไตยเต็มที่ นึกถึงคนทุกคน จะประกาศหรือสั่งอะไรไปก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด แต่ทุกอย่างกฎหมายปกติมีอยู่แล้ว ทำกฎหมายปกติให้เข้มงวดขึ้น อะไรที่สามารถควบคุมโรงงาน ควบคุมต่างๆรวมถึงการเผาวัชพืชในที่โล่งมีทุกตัว ต้องเข้มงวดตรงนี้ให้ได้ แล้วดูมันจะลดไหม ถ้ายังไม่ลดเดี๋ยวต้องหามาตรการที่ 2 และมาตรการที่ 3

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราทำมาตรการ 1 กับ 2 อยู่เดี๋ยวถ้ามีมาตรการที่ 3 ขึ้นมาจะยิ่งกว่านี้ ถ้ามันยังแก้ไขไม่ได้ เพราะบางพื้นที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม เขาก็ไปวัดดูแล้ว ก็ไม่ได้มากมาย และส่วนใหญ่ก็ต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ปัญหาเกิดจากการสะสม ในส่วนที่ลอยมา ต่างประเทศก็ประสานไป ซึ่งจากรอบบ้านก็สำรวจแล้วมันพัดออกนอกอีกทางหนึ่ง ไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ ไม่ได้เข้าประเทศไทย ฟังตรงนี้บ้าง แต่ทั้งหมดใครเป็นคนทำ ตนก็ทำเพราะตนนั่งรถ ทุกคนร่วมกันทำหมด ฝุ่นผงที่ว่านี้ ลดลงได้ไหม เอาไหมวันหน้ารัฐบาล นายกรัฐมนตรีเดินมาทำงาน เอาไหม ท่านมาจากจังหวัดไหนเดินมา หรือไม่ใช้รถส่วนตัวเลย ใช้รถร่วมบริการอย่างเดียว ก็ได้เดี๋ยวมาตรการ 3-4 ออกมา ใช้รถวันคี่วันคู่ ห้ามรถตรงนี้ตรงนั้น ตนถามจะไปมากันอย่างไร ก็ไม่รู้เหมือนกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้เพียงแต่ให้รถมีสมรรถนะที่ดี อะไรลดได้ลด หรือขึ้นรถไฟฟ้าบ้างรถเมล์บ้าง ซึ่งรถเมล์ก็ต้องเปลี่ยน หลายคนบอกให้เปลี่ยนเป็นรถเมล์ NGV แล้วมันคันละเท่าไหร่ รถเมล์มีเกือบหมื่นคันทั้งของรัฐและของเอกชน เอาแค่เปลี่ยน 5-6 พันคัน คันละ 3.5 ล้าน ใช้เงินเท่าไหร่ และพร้อมจะเปลี่ยนไหม ต้องดูเครื่องยนต์ดูความสะอาด รถควันดำวิ่งไม่ได้โดยเด็ดขาด ถ้ายังดื้ออยู่พ่นสีลงไปเลย กากบาทไปเลยหัวท้ายรถ ติดสติ๊กเกอร์ก็ลอกออกได้อีก ทุกรถ รถนายกฯก็ต้องพ่น ถ้าควันดำ ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่เอ่ยอะไรรัฐบาลก็ต้องแก้ รัฐบาลมีอย่างเดียวคือบังคับใช้กฎหมาย และมันก็แรงขึ้นแรงขึ้น พอใช้ไม่ได้ขึ้นมา กฎหมายเสียอีก เหมือนกฎหมายจราจรที่เสียหมดทุกอัน เพราะกฎหมายเขียนถึงคนส่วนรวมทุกคนจึงต้องปฏิบัติ ไม่มีกฎหมายไหนที่เขียนเฉพาะคน ไปเขียนกันใครไม่ได้ นั่นคือประชาธิปไตย เหมือนที่ท่านต้องการกันอยู่วันนี้

Cr.thaipost

สำนัก