ตัวแทนพรรคการเมือง ประสานเสียงตำหนิ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พูดคำหยาบสู่สาธารณชนหลายครั้ง หลังหลุดคำว่า มึงมาไล่ดูสิ ระหว่างการแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 4 ปี โดยมองว่า ขาดซึ่งวุฒิภาวะในการเป็นนายกรัฐมนตรี
ตัวแทนพรรคการเมือง ประสานเสียง ซัด “บิ๊กตู่” หลุด เพราะไม่มาจาก ปชต.
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พบเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. พูดคำหยาบหลายครั้งแล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้พูดว่า มึงมาไล่ดูสิ หลังถูกกดดันจากสังคมให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นกลางในการเลือกตั้ง
โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะเชื่อมโยงกับประชาชน กับผู้นำที่ไม่เชื่อมโยงกับประชาชนเพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พร้อมทั้งเสนอว่า พลเอก ประยุทธ์ จำเป็นต้องมีความอดทน อดกลั้น ต่อการเรียกร้องของประชาชนและทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยให้มากเป็นพิเศษ หลังจากตัดสินใจจะเข้าสู่การเป็นนักการเมืองเต็มตัว
นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอให้พล.อ.ประยุทธ์ เกาะเก้าอี้ไว้แน่น ๆ เพราะหากถึวเวลาร่วงลงมาจะได้ไม่เจ็บ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจ เมื่อครั้งที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ ผบ.ทบ. เรียกพรรคการเมืองและผู้ชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ ประชุม และถามตนในฐานะตัวแทนรัฐบาลว่าจะลาออกจากการรักษาการหรือไม่ ซึ่งตนตอบว่าไม่ออก พล.อ.ประยุทธ์จึงทุบโต๊ะปฏิวัติทันที แต่วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตัวเองเคยเรียกร้อง
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติ มองว่า การพูดของ พลเอกประยุทธ์ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเยาวชน โดยเปรียบเทียบกับกรณี 4 รัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกเรียกร้องให้ลาออกอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการเกรี้ยวกราด และสุดท้ายก็ต้องลาออก ดังนั้น จึงอยากให้ พลเอกประยุทธ์ ศึกษาเป็นตัวอย่าง เพราะ นายกรัฐมนตรีจะต้องมีบรรทัดฐานที่สูงกว่ารัฐมนตรี และเป็นตัวอย่างให้กับคนทั้งประเทศ
พร้อมระบุว่า พลเอกประยุทธ์ ต้องคิดให้หนักว่า หากเรื่องแค่นี้ยังทนความกดดันไม่ได้ แล้จะเป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ในการเมืองระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร
ขณะที่นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ ไม่มีสิทธิ์พูดจาหยาบคายต่อหน้าสาธารณชน อันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับสังคมและเยาวชน ขาดซึ่งวุฒิภาวะของคนเป็นนายกรัฐมนตรี
อีกทั้ง ไม่มีสิทธิ์พูดโกหก หรือพูดความจริงไม่หมด ทำให้ประชาชนสับสน กรณีระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แพ้การเลือกตั้งในปี 2557 ทั้งที่เป็นรัฐบาล โดยระบุว่า รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม และยังมีมาตรา 44 ที่สามารถปลด หรือ โยกย้ายข้าราชการทุกหน่วยงาน แม้กระทั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งทำหน้าที่ในการกำกับดูแลการเลือกตั้ง ในขณะที่รัฐบาลปกติทั่วไปนั้นไม่มี
Cr.springnews
สำนักข่าววิหคนิวส์