18 ก.พ.62-ที่ห้องแถลงข่าวห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศว่า การติดตามการขับเคลื่อนทางการเมืองของแต่ละฝ่าย พบว่าบรรยากาศขณะนี้คล้ายช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516, 6 ตุลาฯ 2519 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ซึ่งเพลงหนักแผ่นดินถูกนำมาใช้ก่อนเกิดเหตุการณ์ การที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้หยิบยกเพลงหนักแผ่นดินสื่อสารไปยังพรรคการเมืองที่เสนอตัดงบกองทัพ เป็นการส่งสัญญาณว่าบรรยากาศของบ้านเมืองจะจบลงเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ หรือไม่
นายจตุพร กล่าวว่า นึกย้อนกลับไปก่อนยึดอำนาจวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีการยกวาทกรรมเรื่องเผาบ้านเผาเมือง มาขยายความอย่างต่อเนื่อง ตนในฐานะประธาน นปช. ถ้าปล่อยให้ผ่านเลยไปคิดว่าจะมีปัญหาในอนาคตได้ ตนเข้าใจว่าเจตนาการพูดเรื่องดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การล้มกระดานไม่ให้มีการเลือกตั้ง เป็นวาทกรรมที่ถูกนำมาใช้ทั้งการเลือกตั้งปี 2554 นำพาไปสู่การยึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งจะนำไปสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่
“ผมแปลกใจว่าบรรยากาศการหาเสียงก็อึมครึมอยู่แล้ว เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกิดรัฐประหารซ้อนหรือไม่ ไม่มีใครการันตีได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก และบรรยากาศปราศรัยเมื่อคืนของพรรคการเมืองฝั่ง คสช. ต้องการให้เกิดเรื่อง ให้ล้มกระดานการเลือกตั้ง และท่วงทำนองของ ผบ.ทบ.ที่หนักหน่วง ผมอยากให้ประชาชนได้ติดตาม เชื่อว่าเราจะเดินไปวันที่ 24 มี.ค.ได้ยากเต็มที ผมขอเตือนอะไรที่เป็นเงื่อนไขให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ได้ ทุกคนต้องเสียสละ” นายจตุพร กล่าว
ประธาน นปช. กล่าวด้วยว่า จากการประเมินพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. จะไม่มีวันชนะในสนามการเลือกตั้ง แม้ว่าจะตั้งส.ว. 250 คนเข้ามา แต่สำหรับประชาชนในสนามการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีวันชนะในสนามของประชาชน สนามเดียวที่พล.อ.ประยุทธ์ จะชนะคือสนามแห่งการยึดอำนาจ
Cr.thaipost
สำนักข่าววิหคนิวส์