“เรืองไกร” ไม่ปล่อย “บิ๊กตู่” ยื่นหลักฐานเพิ่ม ยันเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จี้สอบคลิปโผล่ร่วมปราศรัย เวที “พปชร.” วอน กกต.วินิจฉัยให้ชัดก่อน 24 มี.ค
18 มี.ค.62-นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เดินทางมายื่นเอกสารเพิ่มเติมคำร้อง เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ขาดคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายฯ ของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ โดยนายเรืองไกร ระบุว่า ได้นำคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เมื่อปี 2550 ที่ กกต.ได้ถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวใน รร.ทางภาคใต้ ซึ่งผู้สมัครเป็นเพียงแค่วิทยากร แต่ กกต.ร้องค้านว่าเข้าข่ายลักษณะเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และไม่ประกาศรับรองให้เป็นผู้สมัคร แต่ผู้สมัครคนดังกล่าวก็คัดค้าน ซึ่งศาลก็วินิจฉัยว่าบุคคลดังกล่าวซึ่งเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวมีชั่วโมงการทำงานถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงไม่ประกาศคืนสิทธิ
“ขณะเดียวกันการให้สัมภาษณ์ของ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกพรรค ที่ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาดูแลนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ จึงถือว่าเป็นการสารภาพว่าพรรคพลังประชารัฐ มี พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาชี้นำ ดังนั้นขอให้ กกต.ไปเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการสอบสวนด้วย”นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ส่วนการเปิดคลิปปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ บนเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ที่ จ.สุโขทัย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยโดยมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า “ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อประเทศชาติ และพรรคพลังประชารัฐ” แต่การนำคลิปดังกล่าวมาเปิดบนเวทีปราศรัย ถือว่าผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 28 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคควบคุม ครอบงำ ชี้นำ การดำเนินกกิจกรรมของพรรคการเมือง ทำให้ในกรณีนี้ กกต.จะอ้างว่าความยังไม่ปรากฎคงไม่ได้ ดังนั้น กกต.ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อไม่ให้เรื่องคาราคาซัง เพราะจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้
Cr.brighttv
สำนักข่าววิหคนิวส์