“จตุพร” ประกาศยุติบทบาทช่วยพรรคเพื่อชาติ อ้างบรรลุภารกิจแล้ว ขอเป็นประธาน นปช.อย่างเดียว จวก กกต.จัดเลือกตั้งผิดพลาด จำนวนบัตรแตกต่างจากผู้ใช้สิทธิ 2 ล้านใบ มาแก้ตัวเป็นบัตรเขย่ง อัดกรรมการร่าง รธน.ทำบ้านเมืองเจอทางตัน ตั้งรัฐบาลได้ยาก ยอมรับกลัวสมาชิกพรรคโดนดึงเป็นงูเห่า
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ได้แถลงยุติบทบาทการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อชาติ และกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ โดยบอกว่าได้แจ้งต่อหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรคให้รู้แล้วตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภารกิจของตนที่ประกาศไว้ คือ การรวบรวมเสียงฝั่งประชาธิปไตยให้ไปเทรวมในวันเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อพรรคเพื่อชาติแถลงจุดยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย จึงถือว่าภารกิจของตนเสร็จสิ้น จากนี้ไปตนจึงเหลือสถานะเดียวคือประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
นายจตุพร ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์การเมืองปัจจุบันนี้ ตนต้องการเห็นการแสดงความรับผิดชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งจำนวนบัตรดีกับจำนวนคะแนนรวมของแต่ละพรรคนั้นมีความแตกต่างกันมากกว่า 2 ล้านคะแนน หรือแม้แต่จำนวนบัตรที่ใช้กับจำนวนผู้ใช้สิทธิก็ยังมีความต่างกันเกือบ 2 ล้านเช่นกัน ถึงแม้จะมีการนำคำว่าบัตรเขย่งมาใช้ ซึ่งเกิดมาตนก็เพิ่งเคยได้ยิน ทั้งที่ในทางปฏิบัติแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมีการรับบัตรแล้วไม่ไปใช้สิทธิ
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กกต.อธิบายเพื่อที่จะให้รอดพ้นสิ้นข้อสงสัย แต่กลับยิ่งสร้างความสงสัยมากขึ้น เมื่อมีการสงสัยเรื่องคะแนนมาตั้งแต่ต้น และยังมีคะแนนที่งอกออกมาอีกทำให้เกิดปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งมีความห่วงใยว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 จะนำพาสู่วิกฤต คือพาการเมืองสู่ทางตัน เพราะทั้ง 2 ฝั่งการเมือง ไม่ว่าซีกใดได้เสียงข้างมากที่ไม่เด็ดขาด ก็ไม่สามารถเดินต่อไปได้ทั้งคู่ นอกจากนี้ กกต.ยังมีวิธีการนับคะแนนหลากหลายรูปแบบที่จะไปทอนคะแนนของพรรคใหญ่ แล้วกระจายปาร์ตี้ลิสต์ให้กับพรรคเล็กๆ เพื่อให้เกิดปรากฏการณ์ว่ารัฐบาลของคณะสืบทอดอำนาจมีพรรคการเมืองเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การเมืองจะเดินต่อไปได้ในตอนนี้คือการจะต้องไปปล้นสมาชิกพรรคอื่นที่เรียกว่า กลุ่มงูเห่า ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 2 พรรคที่กำลังถูกกวาดต้อนโดยการต่อรองผลประโยชน์
นายจตุพร อ้างว่า ตนได้คุยกับฝั่งสืบทอดอำนาจ ซึ่งระบุว่าเสียงที่ต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในสภาต้องได้ 270 ที่นั่ง ซึ่งถ้านับตอนนี้ไม่มีทางถึง ถึงแม้ว่าจะมีการแจกใบแดง เหลือง ส้ม ดำ ขาว ซึ่งเป็น 5 ใบที่มีอยู่ในการเลือกตั้งของไทย แต่ผลการเลือกตั้งก็จะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถ้าแจกใบแดงให้เพื่อไทย ก็ยังเหลืออนาคตใหม่ หรือพรรคอื่นๆ ในซีกประชาธิปไตย และถ้ามีเลือกตั้งซ่อมก็จะเกิดปรากฏการณ์รณรงค์หาเสียงเพื่อพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งครั้งนี้อาจจะเป็นพรรคร่วมฝั่งประชาธิปไตย กับฝั่งสืบทอดอำนาจ ยิ่งจะทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธา ซึ่งที่สุดแล้วก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะนำไปสู่อะไร
นายจตุพร กล่าวว่า คนแรกที่จะต้องรับผิดชอบในขณะนี้ คือ กกต. โดยที่ตนจะไม่เรียกร้องให้ลาออก ส่วนผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อมาคือคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพราะเขียนรัฐธรรมนูญให้ประเทศไทยเดินสู่ทางตัน ส่วนเรื่องงูเห่าที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าในส่วนของสมาชิกพรรคเพื่อชาตินั้น มีถูกดึงไปบ้างหรือไม่ เสียวอยู่เหมือนกัน