วันที่ 29 พ.ค.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ระบุว่า…
“เสธ.ณุ” ยึดหลัก “ป๋า” ปล่อยวาง ไม่คิดตอบโต้ พวกโพสต์ไม่จริง ทำป๋าเสียหาย ชี้ เป็นการเมือง ปล่อยฝ่ายบ้านเมือง จัดการ ….เผย ป๋า บริจาคเฉพาะเงินสดในบัญชีเงินฝากที่เก็บมาตั้งแต่เป็นนายทหาร จนเป็น นายกฯและจากตำแหน่งที่ปรึกษาภาคเอกชน ….เตรียมหารือทำโครงการด้านไหน
จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความ โจมตีพล.อ.เปรม ในโซเชี่ยลมีเดีย อย่างเสียหาย นั้น พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิทฯ กล่าวว่า ผู้เสียหาย ขณะนี้ไม่มีชีวิตแล้ว เรื่องกฎหมายบ้านเมืองก็ว่ากันไป เห็นควรทำ ก็ว่ากันไป แต่เราไม่ได้อะไร
สิ่งที่โพสต์ออกมา ถ้าไม่จริงก็คือไม่จริง ก็พิสูจน์ได้ว่าไม่จริง คนที่โพสต์ก็รู้ว่าเขาบิดเบือนหรือไม่ อย่าโกหกตัวเองจนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ถ้าถามว่าคนที่โพสต์รู้หรือไม่ว่า ความจริงคืออะไร ผมคิดว่า ผมนั้นรู้ดี แต่เป็นการเมือง
พล.อ.เปรม ต้องการบริจาคเงินที่สะสมมาจัดทำเป็นโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ ทำโครงการที่เกี่ยวกับด้านการศึกษา และอื่นๆ ที่ทันสมัย และ ถาวร
ตนจึงได้ไปปรึกษา พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานมูลนิธิรักเมืองไทย ทางพล.อ.มงคล ก็คิดว่าน่าจะจัดเป็นโครงการช่วยเหลือทางด้านการแพทย์
โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจ ซึ่งมีคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์เข้าร่วม
โดยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ อดีตรมช.มหาดไทย เสนอว่าควรไปจัดสร้างที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
พล.อ.มงคล ได้นำข้อคิดเห็นมาหารือกับพล.อ.เปรม แล้วยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมีการทำโครงการนี้หรือไม่ และ จะจัดตั้งขึ้นที่ใด
พล.อ.พิศณุ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ท่านจะเสียชีวิตประมาณ 7 วัน พล.อ.เปรม ได้เรียกตนไปพบและบอกว่าขอเพิ่มเป็นโครงการที่ช่วยเหลือคนจน จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกษตรที่เป็นเรื่องถาวรด้วย
แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพียงแต่เป็นการไปขอความคิดเห็นจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เท่านั้น
ส่วนข้อสรุปคงต้องรออีกสักระยะ ขณะนี้จึงมีสองส่วนคือ โครงการศูนย์การแพทย์ และ โครงการช่วยคนยากจนก่อน
ซึ่ง นายวิษณุ บอกว่าอยากให้ทำโครงการช่วยเหลือคนยากคนจนก่อน แต่ถ้ามีข้อติดขัดหรือยากลำบาก ก็จะเป็นโครงการเกี่ยวกับการแพทย์เหมือนเดิม
เป็นส่วนที่หารือกันไว้พักใหญ่แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินการในช่วงที่ท่านอายุครบ 99 ปี จะขึ้น 100 ปี แล้วท่านก็บอกว่าให้ผมรับเงินไปเลย แต่ผมก็บอกว่าขอไปคิดเรื่องโครงการให้ได้ก่อน และดูว่าใครจะเป็นคนดำเนินการ
โดยท่านบอกว่าอยากให้โครงการอยู่ในมูลนิธิที่มีชื่อตัวเองท่านด้วย ผมก็บอกว่าจะมีมูลนิธิรัฐบุรุษฯ พล.อ.เปรม ที่มีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธาน กับ มูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม จ.สงขลา ซึ่ง นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน”
โดยส่วนที่บริจาคทำโครงการ ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินอื่น เฉพาะเงินสดในบัญชีเงินฝากที่ท่านเก็บมาตั้งแต่เป็นนายทหาร นายกรัฐมนตรี และจากตำแหน่งที่ปรึกษาภาคเอกชน ที่ผ่านมาท่านก็จะบริจาคให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนและมาขอความช่วยเหลือ
Cr.wassana nanuam
สำนักข่าววิหคนิวส์