5 สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตบเท้าลาออก หลังมีมติร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ลั่นพรรคปลอม ๆ ไม่เหลือแก่นแท้ของประชาธิปัตย์อีกต่อไป บางคนสมัครพรรคอนาคตใหม่ต่อ
วันที่ 4 มิถุนายน 2562 นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กประกาศลาออก โดยมีรายละเอียดว่า “ผมยินดีที่ได้รู้จักและร่วมงานกันกับทุกท่านนะครับ และต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกให้ผมในเขต 15 มีนบุรี/คันนายาว รวมถึงทุกคะแนนทั่วประเทศ สมาชิคพรรคทุกท่าน ในเมื่อคำพูดต้องเป็นคำพูด ผมขอยุติบทบาททางการเมืองไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ขอเป็นกำลังใจให้พรรคประชาธิปัตย์เสมอ และเชื่อในฝีมือของ ส.ส. และว่าที่ รมต. ทุกท่านว่าจะทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองได้แน่นอน”
ขณะที่นายพริษฐ์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ หนึ่งในสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้โพสต์ประกาศลาออกเช่นกัน โดยระบุว่า “ขอขอบพระคุณประสบการณ์และมิตรภาพ ที่พรรคประชาธิปัตย์มอบให้ครับ ผมขอลาออกจากสมาชิกพรรคทันทีครับ คำไหนคำนั้นครับ”
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีการโพสต์ข้อความลาออก ระบุว่า “ขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยให้โอกาสลงรับสมัครเลือกตั้ง และให้การสนับสนุนต่าง ๆ ทำให้มีประสบการณ์ที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย แต่เมื่อแนวทางอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน คงขออนุญาตที่จะลาออกจากสมาชิกพรรคครับ”
โดยสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกคน ก็ได้โพสต์ผ่านทาง
เฟซบุ๊ก Max Bossaert ว่า “ผมเลือกประชาธิปัตย์ ด้วยความหวังว่า ประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายที่ออกมาต้านการสืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่วันนี้มันชัดเจนแล้วว่า คุณอภิสิทธิ์ คุณไอติม และ New Dem คนอื่น ๆ รวมถึงผม เป็นเพียงเสียงส่วนน้อย เมื่อเทียบกับงูเห่าทางอุดมกาณ์ทั้งหลาย ตามคำสัญญาที่วางไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง หากประชาธิปัตย์ทรยศต่ออุดมการณ์และเสียงของประชาชนที่เลือกพวกคุณมา 3.9 ล้านเสียง ผมก็จะลาออกเต็มตัว จากทุกบทบาทที่มีทั้งในพรรคและในเฟซ (แอดมิน) วันนี้เราได้เห็นท่าทีที่ชัดเจน 61 ต่อ 16 คือความสิ้นหวังกับพรรค ผมจึงขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จากวันนี้ไป จนถึงเลือกตั้งหน้าจะขอสนับสนุนการทำงานของพรรคอนาคตใหม่”
ทั้งนี้ นายทัดชนม์ กลิ่นชำนิ กล่าวว่า “วันนี้คณะกรรมบริหาร และ ส.ส. ได้มีมติเสียงข้างมากถึง 61:16 เสียง ในการตัดสินใจทางการเมืองที่ขัดต่ออุดมการณ์พรรคอย่างชัดเจน และไม่เห็นความสำคัญต่อคะแนนเสียง 3.9 ล้านเสียง ที่ลงคะแนนด้วยความยึดมั่นในอุดมการณ์ ผมไม่มั่นใจว่าก่อนการลงมติดังกล่าว ที่ประชุมได้ขอมติเพื่องดเว้นการบังคับใช้อุดมการณ์พรรคข้อที่ 4 และจุดธูปขอขมาดวงวิญญาณผู้ก่อตั้งและอดีตสมาชิกพรรคก่อนหรือไม่ ว่าวันนี้จะมีมติที่อัปยศที่สุดต่อการดำรงอยู่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ด้วยความเป็นสมาชิกตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง จึงไม่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือขัดขืนใด ๆ ได้ แต่ผมขอเลือกที่จะรักษาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์เอาไว้กับตัว แล้วขอออกมาจากพรรคปลอม ๆ ที่ไม่เหลือแก่นแท้ของประชาธิปัตย์อีกต่อไป”
Cr.kapook
สำนักข่าววิหคนิวส์