ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนาได้โพสต์เฟสบุ๊คถึงสถานการณ์สส.สิระไว้ดังนี้ว่า
คนเดินหมาก สส.สิระ คงอยากให้ภาพลักษณ์พรรคสวย ให้ดูทำหน้าที่ สส. ที่ไปทุกพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน หวังสร้างชื่อพรรคให้ดีขึ้น เหมือน สส.เต้ มงคลกิตติ์ แต่ลงไป ก็ติดอารมณ์พฤติกรรมของลุงที่ฉุนเฉียว เหมือน เตียวหุย ในสามก๊ก สุดท้ายก็ถูกล่อไปฆ่า ด้วยฝีมือลูกน้องคนสนิท
ทำให้สิ่งที่ออกมาถูกมองทางสังคมว่า ก้าวร้าว กร่าง แตกต่างจาก มงคลกิตติ์ ที่พลิกชีวิต จากถูกต่อต้าน ขั้นมีการล่าชื่อจะขับไล่จากสส.-ศิษย์เก่า มาเป็นสนับสนุน ชมเชย ตามหลักกลยุทธ์ “ตายเพื่อเกิดใหม่” ที่พลิกแพลงจาก ตำราพิชัยสงคราม ยุคซุนจื่อ 39 บทแรก ก่อนเป็น 99 บท นำมาพัฒนาใหม่มาใช้ทางการเมืองไทย
ใครว่ามันง่าย ใครว่ามันบังเอิญ มันมีหลักทั้งนั้น เอาเบี้ยเดินในกระดาน ยุติเดินม้า คนบางคนเห็นเดินหมากการเมือง คงเข้าใจว่าเดินง่าย ก็หวังเดินตาม ดูลุงเป็นตัวอย่าง เมื่อขยับหมากไม่เป็น ก็เดินสะเปะสะปะ เดินหมากขาพันกัน ได้แต่เดินหมากหนีในสภา และกำลังเข้าสู่ตาจน ยิ่งเดินยิ่งลบ
ยิ่งตะแบงก็ยิ่งพัง 2 หมากสุดท้ายที่เดินถูกทาง คือ ต่อต้านอวตาล หรือข่าวปลอม และไม่นำคนร้ายระเบิดกทม.มาแถลง นอกจากนั้นเดินมั่ว ขยับหมากไม่ถูกทาง เดินหมากวนอยู่ที่เดิม
ไปเดินหมาก สิระ เพื่อหวังกลบข่าวถวายสัตย์ ยิ่งทำก็ยิ่งเละ มีเลือกตั้งซ่อมและเลือกตั้งท้องถิ่น รับรองแพ้กราวรูด แม้หวังจะไปซื้อพรรคมิ่งขวัญ แต่13พรรคเล็กก็กำลังแตก หาทางหนี จึงไม่มีทางชนะ นี้แหละการเมือง เพราะการเมืองมันคือละคร ละครมันคือการเมือง
“ เดินการเมืองก็เหมือนเดินหมากรุก พลาดหมากเดียวล้มทั้งกระดาน “
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
20 สิงหาคม 2562
สำนักข่าววิหคนิวส์