“ธิดา ถาวรเศรษฐ“ ร่ายยาว! ชี้ไฟแห่งความเกลียดชังยังคงมีอยู่ ลั่นนปช.เผาเมือง และชายชุดดำวางระเบิด เป็นความเชื่อเหนือความจริงของฝ่ายสร้างความเกลียดชัง
นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เฟซบุ๊กไลฟ์โดยได้ตั้งประเด็นสนทนาว่า “ไฟ” ยังเผา “สังคมไทย” อย่างรุนแรง แม้ “ไฟ” ที่เผาอาคารดับไปแล้ว ตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ปี 2553 ไฟเผาอาคารดับไปแล้ว และเหตุการณ์ผ่านมาแล้วร่วม 9 ปี ซึ่งมีคนจำนวนหนึ่งถูกพิพากษา และส่วนหนึ่งเข้าไปในกรณีคำพิพากษาศาลฎีกา จนกระทั่งมาถึงกรณีคำตัดสินของศาลแพ่ง ชะตากรรมของแกนนำนปช.ก็ยังวนเวียนอยู่กับคดีความมากมาย
นางธิดา กล่าวว่า กรณีที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่าไปฟังคำพิพากษาแทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในคดีเกี่ยวกับการวางเพลิงเผาทรัพย์ช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มนปช. โดยมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายนั้น โจทก์ฟ้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และไม่ได้ตั้งใจฟ้องเฉพาะในส่วนของนปช. และผลแห่งคดีศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้ยกฟ้อง แต่ศาลฎีกาพิพากษากลับให้นายจตุพร พรหมพันธุ์,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อและนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ร่วมกันรับผิดชอบค่าเสียหาย และดอกเบี้ยประมาณ 30 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้ติดใจที่นายราเมศออกมาพูด และเคารพในคำพิพากษาของศาล
นางธิดา กล่าวด้วยว่า แกนนำนปช.ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ได้เป็นคนไปสั่งการให้มีการเผาบ้านเผาเมือง วางระเบิด และมีความสัมพันธ์กับแกนนำนปช.แต่ประการใด รวมทั้งไม่สามารถที่จะจับตัวผู้ร้าย หรือ ชายชุดดำ ซึ่งไม่ได้มีความสัมพันธ์กับการปราศรัยของแกนนำ แต่พูดง่ายๆ ว่าในคำพิพากษาศาลอาญากรณีก่อการร้าย ชี้ให้เห็นว่าแกนนำนปช.ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้สั่งการ ไม่ได้เป็นเหตุของเรื่องชายชุดดำ เรื่องการเผา และเรื่องการวางระเบิดแต่ประการใด แต่เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ปมแรกคือปมย้อนแย้ง เอาคำพิพากษาของศาลอาญากับศาลแพ่งนั้น เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจว่ามันจะมีปัญหาต่อไปหรือไม่ ปมที่สองอยากจะให้เห็นว่า ไฟไหม้อาคาร มันดับไปแล้วตั้ง 9 ปี แต่ในสังคมไทย ไฟแห่งความเกลียดชังและความเป็นศัตรูกันมันยังดำรงอยู่ ทั้งนี้ สังคมไทยจะยุติไม่ได้หากว่าสังคมนี้ยังเอาความเชื่อและมโนไปอยู่เหนือความเป็นจริง ดังนั้นความจริงที่ตรวจสอบและพิสูจน์ได้มันจึงสำคัญ
นอกจากนี้ นางธิดา กล่าวทิ้งท้ายว่า สังคมไทยเมื่อมีการแตกแยกเป็นฝักฝ่าย ใช้วาทะกรรมที่ลวงโลก วาทะกรรมที่สร้างความชอบธรรมในฝ่ายตนเองเพื่อเผาประเทศไทยยังดำรงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ พร้อมฝากด้วยว่า ปัญหาสำคัญก็คือ สังคมไทยยังถูกเผาด้วยความคิดที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้เป็นผลร้ายกับฝ่ายตรงข้ามตัวเองนะ เพราะวาทะกรรมลวงโลกและให้เกลียดชังกัน จึงอยากจะฝากเตือนประชาชนว่า จะใช้วิธีการสกปรก คำพูดที่ไม่จริงมาทำลายฝั่งตรงข้ามไม่ได้ เพราะฉะนั้นวิธีการใช้วาทะกรรมลวงโลกและต้องการเผาสังคมไทยให้อยู่ในความเกลียดชังนั้น มันไม่ใช่วิธีการของฝ่ายประชาชน
Cr.bright tv
สำนักข่าววิหคนิวส์