เว็บไซต์ ไทยโพสต์ออนไลน์ รายงานว่า 24 พ.ย.62-.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 พ.ย. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี มีนัดอ่านคำพิพากษาในคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 40 ปี บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91
คดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 จากกรณีนายพานทองแท้รับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาท เข้าบัญชี ซึ่งมีการกล่าวหาว่าเงินนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 80 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกนายวิชัยและนายรัชฎา บุตรชายคนละ 12 ปีร่วมกับพวก โดยในส่วนของนายวิชัย , นายรัชฎา บุตรชาย และกลุ่มอดีตกรรมการบริษัทเอกชนในเครือกฤษดา รวม 6 คนนั้น ก็ถูกอัยการ ยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วย
โดยนายพานทองเเท้ให้การปฏิเสธมาตั้งเเต่ชั้นสอบสวนที่มีพนักงานสอบสวนดีเอสไอเป็นผู้ทำสำนวนทั้งยังมีอัยการจากสำนักงานสอบสวนร่วมสอบสวนด้วย จนถึงชั้นศาล นายพานทองแท้ จำเลย ก็ให้การปฏิเสธสู้คดีว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นที่ได้ร่วมลงทุนกับนายรัชฎา บุตรชายของนายวิชัย อดีตผู้บริหารกฤษดามหานคร
โดยคดีนี้ศาลนัดไต่สวนพยาน 3 นัด คือ วันที่ 24, 25 และ 26 ก.ย.ซึ่งวันที่ 24 และ 25ได้ไต่สวนพยานไปแล้ว 4 ปาก ซึ่งเป็นพยานโจกท์และพยานที่โจทก์และจำเลยอ้างร่วมกัน โดยนายพานทองเเท้ขึ้นเบิกความเองในวันนัดสืบพยานป่กสุดท้ายวันที่ 26 โดยหลังเบิกความเสร็จในช่วงครึ่งวันของวันดังกล่าว ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 พ.ย.นี้เวลา 10.00 น.โดยให้คู่ความยื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 30 วัน นับจากวันที่26 ก.ย.หากไม่ยื่นภายในกำหนดจะถือว่าไม่ติดใจ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามแหล่งข่าวทีมทนายความของนายพานทองแท้ ระบุว่า ไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับคดีนี้ได้ ส่วนที่นายพานทองแท้จะไปฟังคำพิพากษาหรือไม่อย่างไรนั้น ก็ไม่ได้มีการยืนยันกับตน จึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ที่ผ่านมาในชั้นไต่สวนพยานได้มีการเตรียมการทำงานกันมาทั้งหมด ทางทีมทนายความจะไปฟังคำพิพากษากันในวันที่ 25 พ.ย.อยู่แล้วตามหน้าที่ ขอให้รอฟังคำพิพากษาดีกว่ายังไม่ขอเปิดเผยอะไรทั้งสิ้น