ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้โพสข้อความระบุว่า
ธนาธร นัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมและความเสมอภาคในทางกฎหมาย ที่สกายวอร์คนั้น “ต้องดูที่เจตนา”
ตามข่าวเห็นได้ว่า นายธนาธร”เรียกร้องความเสมอภาคในทางกฎหมายให้กับทุกคนที่ตนเองได้ประสบมาเป็น “สิทธิพลเมือง”ที่จะเห็นความยุติธรรมให้มีความเสมอภาค หากไม่ดำเนินการในตอนนี้. ประชาชนจะหวังใคร “ถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร์ไทยเปิดช่องให้กระทำได้ประกอบถ้อยคำที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวก พูดขณะเกิดเหตุไม่ปรากฎว่ามีถ้อยคำที่หยาบคายหรือสร้างความรุนแรง ขณะที่มีการชุมนุมมีเป้าหมายเดียวคือ เรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อทุกองค์กร จึงเป็นไปตามมุ่งหมายของขบวนการยุติธรรม
ธนาธร นัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมและความเสมอภาคในทางกฎหมาย ที่สกายวอร์คนั้น “ต้องดูที่เจตนา”
ตามข่าวเห็นได้ว่า นายธนาธร”เรียกร้องความเสมอภาคในทางกฎหมายให้กับทุกคนที่ตนเองได้ประสบมาเป็น “สิทธิพลเมือง”ที่จะเห็นความยุติธรรมให้มีความเสมอภาค หากไม่ดำเนินการในตอนนี้. ประชาชนจะหวังใคร “ถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร์ไทยเปิดช่องให้กระทำได้ประกอบถ้อยคำที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวก พูดขณะเกิดเหตุไม่ปรากฎว่ามีถ้อยคำที่หยาบคายหรือสร้างความรุนแรง ขณะที่มีการชุมนุมมีเป้าหมายเดียวคือ เรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อทุกองค์กร จึงเป็นไปตามมุ่งหมายของขบวนการยุติธรรม
ส่วนที่ประชาชนผู้ร่วมชุมนุมได้พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และร้องขับไล่ให้ออกไปนั้นเกี่ยวกับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องความเสมอภาคในทางกฎหมายเป็นเรื่องที่ประชาชนได้ทราบและประสบมาด้วยตนเอง และเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปแล้วจึงถือว่าเป็นการตรวจสอบวิพากวิจารณ์โดยสุจริตตามหลักการณ์ประชาธิปไตย การกระทำของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับประชาชนที่ร่วมชุมนุมจึงไม่เป็นความผิด ศาลอาญาเคยพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการสร้างความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน เป็นการวิพากวิจารณ์ตามหลักประชาธิปไตย การกระทำจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
สำนักข่าววิหคนิวส์