25 มกราคม 2563 ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์การเมือง การปกครอง ได้โพสข้อความระบุว่า ในเชิงยุทธศาสตร์การเมือง การปกครองแล้ว ทุกอย่างมาตามเวลาหลัง 16-22 มค.2563 ภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง การบาดเจ็บล้มตายของคนจำนวนมาก และคนมีชื่อเสียง การแตกหักและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ฝุ่นพิษ PM2.5 ในไทยจะเริ่มเบาบางลง แต่เกิดการแปรปรวนทางอากาศ ลูกเห็บตกในหลายจังหวัด ภัยแล้ง การเมืองไทยก็เริ่มวุ่นติดต่อกัน
งบประมาณก็ใช้ไม่ได้ เพราะเสียบบัตรแทน คนของรัฐบาลทั้งเสียบบัตร และเรื่องทุจริตเครื่องตรวจอัตลักษณ์ ค่า 2100 ล้าน ก็แฉกันเอง อันจะส่งผลกระทบความเชื่อมั่นรัฐบาล และต่อสภาวะเศรษฐกิจที่จะทรุดต่ำลง เพราะรัฐบาลไม่มีเงินมาบริหาร ยิ่งคิดจะแตกเงินอีก ด้วยโครงการ ชิม ช้อป ใช้ และทะลึ่งเพิ่มแจกให้ต่างชาติด้วย ก็จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจเละ
อันสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ผู้นำมากขึ้น ภาคปฏิบัติการ คดี ลัก วิ่ง ชิง ปล้น 18 มงกุฎ แชร์ลูกโซ่ จะเพิ่มมากขึ้นรายวัน ทั้ง ร้านทอง ธนาคาร จะอันตรายหนัก
ภาคใต้ก็กลับมารุนแรงมุ่งเป้าไปทหารพรานและประชาชนเป็นสำคัญ มาพร้อมกับความขัดแย้งทางการเมือง โดยมีคนให้สัญญาณจากต่างประเทศ ในการก่อเหตุ คนมีชื่อเสียงอย่าง ชัย ชิดชอบ ก็เสียชีวิต
ในต่างประเทศ อิรัก เกิดการชุมนุมใหญ่ต่อต้าน ขับไล่ทหารสหรัฐ ออกนอกประเทศ ฟิลิปปินส์เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟปะทุ ออสเตรเสีย ก็เกิดไฟไหม้ใหญ่อย่างต่อเนื่องนับเดือน แล้วจู่ๆก็เกิดลูกเห็บตก
ในจีนเกิดโรคระบาด โคโรนา สายพันธ์ใหม่ ที่เหมือนโรคซาร์ ที่เมืองอู่ฮั่น มีคนเสียชีวิตแล้ว 41 ราย ล้มป่วยมากกว่า 800 ราย และระบาดไป ทั้ง ฝรั่งเศส ฮ่องกง มาเก๊า และอีกหลายประเทศ ส่วนไทยพบแล้ว 5 ราย เกาหลีเหนือปิดประเทศห้ามนักท่องเที่ยวเข้า ไต้หวัน เกาหลีใต้ ห้ามนักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่นเข้าประเทศ
จนประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ต้องประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น และใกล้เคียง ห้ามจัดทัวร์ ปิดแหล่งท่องเที่ยว ชุมชน สร้างรพ.เพิ่ม การแพร่ระบาดยังไม่หยุด ตัวการที่ทำให้เกิดโรคระบาดคือ งู และค้างคาว
ที่สำคัญคือยังรักษาไม่ได้ เพราะยังไม่พบตัวกลางของโรค ที่เป็นตัวกลางการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คน ซึ่งปกติ งู และค้างคาว ใช้ในการรักษาโรคได้ เช่น อาการไอ หนองใน เป็นต้น แต่จู่ๆกลับมาเป็นโรคระบาด
ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ เกิดขึ้นในช่วงตะวันตกบุกแอฟริกา และจีน เมื่อปี 2002-2003 จากโรคซาร์ รอบนี้เกิดขึ้นช่วง สหรัฐรุกจีน ในสงครามการค้า แบ่งแยก ซินเจียง ไต้หวัน ฮ่องกง พอดิบพอดีอย่างน่าสงสัย อังกฤษ อิตาลี ฯลฯ เปลี่ยนรัฐบาล หลังประกาศเลือกตั้งใหม่
เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ จะหนักไปอีกราว 45 วัน ตั้งแต่ 22 มค.เป็นต้นไป จึงต้องปรับกลยุทธ์ เชิงยุทธศิลป์ ปรับวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ในหลายลักษณะ สถานการณ์ก็จะดีขึ้นโดยมิยาก เพราะในดีย่อมมีเสีย ในเสียย่อมมีดี มันอยู่ที่ วิสัยทัศน์ผู้นำ นั้นเอง
“ ถึงเวลาตายวายชีวาวาท ทรัพย์และธาตุก็มิตกไปเมืองผี เกิดเป็นคนจงมุ่งทำแต่ความดี กลายเป็นผีตายไปใครก็ชม “