กองทัพเรือหั่นงบปี 63 กว่า 33% รวม 4,100 ล้านบาท หนุนรัฐบาลสู้โควิด-19 สั่งชะลอโครงการเรือลำน้ำลำที่ 2-3 และท่าจอดเรือดำน้ำฯ โครงการซ่อมบำรุง รวมทั้งชะลอโครงการจัดหายุทโธปกรณ์อีกหลายรายการ พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือและโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีรัฐบาลให้ส่วนราชการปรับลดงบประมาณเพื่อนำไปจัดทำร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ…. ไปเป็นงบกลาง เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือจําเป็นอื่นของรัฐบาลว่า ความพยายามในการบริหารจัดการงบประมาณของกองทัพเรือตามที่รัฐบาลสั่งการ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรง ทร.และคณะทำงานทุกฝ่ายในกองทัพเรือ เร่งหาข้อยุติในการร่วมสนับสนุนนโยบายของทางรัฐบาล โดยยึดหลักการตามความจำเป็นของประเทศชาติ ต่อการแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นประการแรก ภายหลังการหารือร่วมของทุกฝ่าย โดย พล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธาน จึงได้ข้อสรุปที่นำเรียนขอความเห็นชอบจากผู้บัญชาการทหารเรือ แล้วตกลงใจว่ากองทัพเรือจะขอเสนอปรับลดงบประมาณลงกว่า 33% คิดเป็นจำนวนเงินประมาณกว่า 4,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่มากกว่าที่รัฐบาลตั้งไว้ โดยจะชะลอการดำเนินการโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ 3 ที่แม้จะเป็นการใช้งบประมาณในส่วนของกองทัพเรือเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงบประมาณของกระทรวงทบวงกรมอื่นแต่ประการใด แต่ก็มักจะตกเป็นเหยื่อหรือเป็นเป้าต่อการปลุกกระแสต่อต้านไปทุกครั้ง จากความพยายามในอดีตในเชิงจิตวิทยาที่ได้ผล เพื่ออาจเป็นการไม่ต้องการให้ประเทศไทยมีกำลังทางเรือที่เท่าเทียมหรือทันยุคสมัย พอที่จะแสดงกำลังในเขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อนกับประเทศอื่น ในการนี้ จึงส่งผลให้โครงการดังกล่าวจำเป็นต้องชะลอออกไปในปีงบประมาณ 64 รวมถึงการชะลอโครงการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำฯ และโครงการซ่อมบำรุงเรือดำน้ำฯ ที่ต้องปรับลดวงเงินปีแรกลง ทำให้การเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับเรือดำน้ำลำแรกต้องล่าช้าออกไปด้วย นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการชะลอโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ที่สำคัญ อาทิ โครงการซ่อมปรับปรุง เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ, โครงการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูล Network Centric, โครงการจัดหาเครื่องฝึกจำลองยุทธ์, โครงการจัดหาระบบอาวุธปืนรองฯ ตลอดจนโครงการก่อสร้างอาคารพัก 64 ครอบครัวฯ ซึ่งแม้จะมีความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพล แต่โดยทุกโครงการก็จะต้องชะลอการดำเนินการไปตามความจำเป็น หรือจะต้องปรับลดวงเงินปีแรกลงไปก่อน การที่กองทัพเรือได้เสนอขอปรับลดงบลงกว่า 33% ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 4,100 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนนโยบายของทางรัฐบาล ในการนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ เป็นไปโดยความมุ่งมั่นของ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ต้องการแสดงออกถึงความตั้งใจจริงที่จะนำพากองทัพเรือไปสู่ความเป็นหน่วยงานที่ประชาชนเชื่อมั่น เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการคิด และทำให้ประสบความสำเร็จในงานตามภารกิจ และที่สั่งการในทุกเรื่องอย่างแท้จริง สำหรับงบประมาณปี 2563 กองทัพเรือได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น 47,277,902,000 บาท.