สกู๊ปข่าว » #ปลดหนี้ 3 ชั่วโคตร 100 ปี ! ดร.เทอดศักดิ์ ชี้ทำแค่นี้คนไทยปลดหนี้

#ปลดหนี้ 3 ชั่วโคตร 100 ปี ! ดร.เทอดศักดิ์ ชี้ทำแค่นี้คนไทยปลดหนี้

30 April 2020
3142   0

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ การเมือง การปกครอง ได้โพสข้อความระบุว่า ปลดหนี้ 3 ชั่วโคตร 100 ปี

ต้องยอมรับความจริงว่ามีอย่างน้อย 2 รัฐบาล ได้ทำการสร้างหนี้ให้กับคนไทย อย่างน้อย 3-4 ล้านๆบาท ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการ ผ่อนชำระต่างชาติไม่ต่ำกว่า 100 ปี หรือประมาณ 3 ชั่วโคตร การกู้ยืมแต่ละครั้งนั้น ล้วนแล้วแต่มีการอ้างความจำเป็น แต่ความจริงแล้วเป็นการกู้ยืม เพื่อนำมาใช้ทางการเมือง ที่มีหลักประชานิยม เอามาแจกจ่ายประชาชนฟรีๆ เพื่อหวังคะแนนเสียงเลือกตั้ง หรือทุจริตถอนทุนในการใช้เงินซื้อเสียงในการเลือกตั้งเท่านั้น

หลักคิดเหล่านี้มาจากนักวิชาการชาวอังกฤษ แต่มีนักการเมืองในประเทศ กรีซ อาเจนจินา ฟิลิฟปินส์ นำไปใช้หวังผลการเมืองตั้ง ทำให้ประเทศที่ร่ำรวยที่สุด กลายเป็นประเทศที่ล่มสลายทางเศรษฐกิจ ล่าสุด กรีซ ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายหนี้ให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF พร้อมล้มละลาย ทำให้เกิดความวุ่นวายในสหภาพยุโรปมาแล้วเมื่อราวสองปีที่แล้ว

ในไทยการออกพันธบัตรในยามชาติวิกฤติ เพราะการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ไทยต้องกู้ยืมเงินของคนในประเทศ ด้วยการออกพันธบัตรมูลค่า 1 ล้านๆบาท และโยกเงินงบประมาณที่ใช้ในการบริหาร ที่คงเหลือจากเงินเดือนปกติ ราวร้อยละ 30 จากทุกระทรวง ทบวง กรม ยุติการซื้ออาวุธ รถถัง เรือดำน้ำ เพื่อนำเงินมาเยียวยาแจกจ่ายประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจ อันเป็นสิ่งที่จำเป็นในยามฉุกเฉิน ในอัตราร้อยละ 10 ของ GDP

หากดำเนินไปตามปกติการใช้หนี้จากเงินที่กู้ยืม มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีบุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล จาก VAT 7% เป็น 10-15% อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ที่จะทำให้ประชาชนทุกคนในประเทศต้องได้รับความเดือดร้อน ข้าวของ สินค้าจะแพงขึ้น เกิดอัตราเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะ เพราะเป็นรายได้หลักของประเทศ ทุกปีรัฐบาลจะต้องขอสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ต้องอนุมัติเงินภาษีเหล่านั้นมาจ่ายค่าเงินต้น และดอกเบี้ยจากการกู้สะสมจากอดีตจนถึงปัจจุบันกว่า 100 ปี หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโคตร ทั้งกู้ต่างชาติและออกพันธบัตรกู้จากคนไทย

การที่รัฐบาลจะหาเงินรายได้เข้าประเทศ เพื่อมิให้ต้องเพิ่มภาระ เพิ่มภาษี หลังจากผ่านวิกฤติการไปแล้วจึงมีความจำเป็นอย่างมาก โดยมีธุรกิจ และกิจการ 2 ชนิด ที่อยู่ในประเทศไทยมาช้านาน มีการทุจริต กระทำผิด จับกุมรายวัน มีการเรียกใต้โต๊ะจากเจ้าหน้าที่เป็นรายเดือน ที่รัฐบาลต้องเสียหายไปมากกว่า 2-3 พันล้านบาทต่อปี คือ บ่อนการพนัน และหวยใต้ดิน

จึงควรจัดตั้งบ่อนคาซิโน ภายในประเทศ อย่างน้อย 4-5 แห่ง  เปิดให้มีการสัมปทาน เหมือนคลื่นโทรศัพย์มือถือ โดยมีการกำหนดหลักเกรณ์ คล้ายคลึง เหมือนประเทศ เขมร ลาว พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐ ฯลฯ ที่นับถือศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม พราม ซิก ได้กระทำกันเป็นสากลมานานแล้ว มิต่างจาก สนามม้า สนามมวย บ่อนไก่ บ่อนวัวชน บ่อนงานศพ ที่มีการอนุญาตในปัจจุบันในประเทศไทย

และเปิดล๊อตโต้ หรือสลากออนไลน์ พนันบอลออนไลน์ ฯลฯ ชนิดพิเศษ  นำหวยใต้ดิน ขึ้นมาบนดิน เพื่อนำเงินเหล่านี้มาจ่ายชดเชยหนี้กรณีการกู้ยืมต่างชาติ และออกพันธบัตร ซึ่งจะได้เงินงบประมาณ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว มากกว่า 2-3 แสนล้านบาทต่อปี โดยไม่ต้องไปเรียกเก็บภาษีจากประชาชนอีก ด้วยการออกพระราชกำหนด หรือออก พระราชบัญญัติ แล้วแต่จะพิจารณา

ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยรังสิต คณะนวัตกรรมสังคม สาขาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง ตั้งแต่สมัย รศ.ดร.สังสิต พิริยะรังสรรค์ เป็นคณะบดี ได้ทำการวิจัยอย่างละเอียด เกี่ยวกับกิจการของทั้ง 2 ประเภทไว้แล้ว ที่เปรียบเทียบ อ้างอิง จากนอกและในประเทศ โดยเฉพาะคาซิโนของสหรัฐ ที่มี ประธานาธิบดี โดนัลทรัมป์ เป็นเจ้าของรายใหญ่ของโลก ที่ควรนำมาใช้ให้เป็นรูปธรรม นำมาปลดหนี้ให้กับคนไทย ไม่ต้องให้ใครมากล่าวหาว่าคนรุ่นนี้สร้างหนี้ ไว้ถึง100 ปี 3 ชั่วโคตรอีกต่อไป

สิ่งเหล่านี้คือหลักการบริหารชั้นสูงในยามสถานการณ์วิกฤติ ตามยุทธการ “ไวรัสพินาศ ประชาชนพ้นภัย” ที่รัฐบาลนอกจากจะกู้ยืมใช้จ่าย เพื่อนำเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนแล้ว ยังใช่สติปัญญาในการหารายได้นำอากาศ มาสร้างเป็นรายได้ นำสิ่งผิดกฎหมายมาถูกกฎหมาย เพื่อหารายได้เข้าประเทศ อย่างชาญฉลาดด้วย อันจะนำพาชาติ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในที่สุดนั้นเอง

“ ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ตำนานอยู่ตลอดไป “

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา

30 เมษายน 2563