นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า เรื่องนี้รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค.ตระหนักดีว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อาจทำให้การใช้ชีวิตของประชาชนไม่สะดวกสบายเหมือนปกติ แต่เท่าที่ได้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาเดือนเศษ จะเห็นได้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้ตามเป้าที่วางเอาไว้
“ขอยืนยันว่า การที่รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่เพื่อกระชับอำนาจหรือสืบทอดอำนาจตามที่บางฝ่ายเข้าใจแต่ประการใด แต่เพื่อเป้าหมายขจัดโรคร้ายเท่านั้น เมื่อสถานการณ์ระบาดคลี่คลายลง นายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจภายใต้ข้อมูลจากคณะที่ปรึกษาที่นายกฯตั้งขึ้น”
เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มยิงเลเซอร์ตามหาความจริงเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม2553 นั้น นายสุภรณ์ กล่าวตอบว่า เหตุการณ์ปี53 ตนร่วมอยู่ในนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร ฉะนั้นนักการเมืองกลุ่มใหม่ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่นี้ ไม่ต้องมาเรียกร้องหรือตามหาอะไร เพราะความจริงได้ปรากฏตามคำพิพากษาของศาลในคดีต่างๆอยู่แล้ว
“ผมได้ข่าวมาว่าจะมีกลุ่มนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในนามคณะก้าวหน้าจะใช้เหตุการณ์พฤษภาปี53มาเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาล ผมว่าเป็นการเอาการชุมนุมของนปช.คนเสื้อแดง มาตีกินมาแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองของพวกตนเอง โดยไม่มีความจริงใจในการตามหาความจริงอย่างที่ว่า เป้าหมายคือการก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไรมีแต่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน”
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ขอให้นายธนาธรและคณะหยุดการเคลื่อนไหว ขณะนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ รัฐบาลเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นางสาวพรรณิการ์ วาณิช และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ควรหยุดการกระทำ ปล่อยให้พรรคก้าวไกล ไปทำหน้าที่ตรวจสอบในสภาผู้แทนฯดีกว่าจะเคลื่อนไหวข้างถนนแบบนี้ เขาไม่เรียกว่านักประชาธิปไตย แต่เขาเรียกว่านักป่วนเมืองมากกว่า”