ความเคลื่อนไหวของพี่สาวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมือง ที่หายตัวไปจากหน้าที่พัก ในกรุงพนมเปญ กัมพูชา ซึ่งมั่นใจ ว่าไม่ใช่การจัดฉากให้ถูกอุ้มหายไป ด้านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เร่งประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ส่วนวันนี้กลุ่มนักเคลื่อนไหวในไทย ได้ไปยื่นหนังสือถึงสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ให้เร่งติดตามนายวันเฉลิมโดยด่วน
Tv3- จากภาพกล้องวงจรปิดที่พยานในจุดเกิดเหตุหน้าคอนโดมีเนียมที่พักของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทย ยืนยันว่ามีรถยนต์สองคน สีดำ และ สีขาว มาอุ้มตัวนายวันเฉลิม ซึ่งขณะนั้นกำลังคุยโทรศัพท์ทางไลน์กับพี่สาวในประเทศไทย ในเวลา 16.35 นาที จากที่ได้คุยกัน 4-5 นาที ก็ได้ยินเสียงนายวันเฉลิม หรือ ตาร์ บอกว่า หายใจไม่ออก แต่พี่สาวคิดว่า น้องชายอาจเกิดอุบัติเหตุ จึงได้แต่ฟังเสียงโทรศัพท์ อีกเกือบ 30 นาที เพื่อฟังเสียงน้องชาย ซึ่งพูดแต่เพียงว่า หายใจไม่ออก ในขณะที่พี่สาว บอกให้น้องทุบหน้าอก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงพยายามฟังเสียงได้ยินเสียงเหมือนชายพูดภาษากัมพูชา ก่อนที่โทรศัพท์จะถูกตัดสายไป
ข่าว 3 มิติตรวจสอบกับผู้สื่อข่าวในประเทศกัมพูชาให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุหน้าคอนโดมีเนียม แม่โขง การ์เดน ของนายวันเฉลิม ซึ่งตั้งอยู่ถนน 6A อำเภอ โจรยจังวา กรุงพนมเปญ พบว่า มีผู้เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุที่นายวันเฉลิม ถูกอุ้มขึ้นรถยนต์ไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนจริง แต่ไม่มีใครให้รายละเอียดได้ ทราบแต่เพียงว่าคนถูกจับขึ้นรถไป ซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์ยังไม่มาทำงาน ขณะที่มีร้านอาหารไทยด้านหน้าทางเข้าคอนโดมีเนียม ปิดทำการในวันนี้ ส่วนร้านกาแฟ ร้านค้าในย่านนั้น บอกว่าวันนี้มีคนมาสอบถามเรื่องนี้หลายคน
จากการลงพื้นที่พบว่า สถานที่ตรงกับภาพในกล้องวงจรปิดและคำบอกเล่าของพี่สาวผ่านพยานในที่เกิดเหตุซึ่งหลังจากสิ้นเสียงโทรศัพท์ พี่สาวของนายวันเฉลิม ได้โทรศัพท์ขอให้เพื่อนในกรุงพนมเปญ ไปตรวจสอบและทราบหลังจากนั้น 20 นาทีว่า วันเฉลืม ถูกอุ้มหายไป
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพี่สาวมั่นใจว่า วันเฉลิม ถูกอุ้มหายไปจริง เรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีการจัดฉากขึ้นได้ และเหตุที่พี่สาวฟังเสียงโทรศัพท์นานเกือบ 30 นาทีโดยไม่มีคำพูดอื่น จากวัน เฉชิม นอกจากคำว่า หายใจไม่ออก เชื่อว่า วันเฉลิม อาจตกอยู่ในอันตราย และคงต้องการสื่อสารถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
พี่สาวยืนยันว่า ขณะวันเฉลิมลี้ภัยอยู่ในกรุงพนมเปญ เขาไม่มีศัตรูกับใคร ครอบครัวเพิ่งทราบว่าเขาอยู่ที่พนมเปญ ในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้เท่านั้น หลังจากเขาหนีออกจากประเทศไทยไปกว่า 6 ปีหลังการยึดอำนาจของ คสช.และถูกดำเนินคดี ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในส่วนครอบครัว ไม่ขอให้ความเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายวันเฉลืมหรือไม่ ขอเพียงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นแก่ความเป็นมนุษย์ ช่วยเหลือน้องชายให้ปลอดภัยเท่านั้น
สำหรับนายวันเฉลิม เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันอายุ 37 ปี แม้การหนีออกนอกประเทศของวันเฉลิมจะมาจากคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.เมื่อปี 2557 และการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล คสช. แต่ วันเฉลิม ถือเป็นนักกิจกรรมตัวยง ที่ทำงานเพื่อสังคมมามากมายด้วย หลังลี้ภัยไปอยู่ประเทศกัมพูชา เขาได้เปิดร้านอาหารเล็กๆขายลาบส้มตำ และกำลังเตรียมทำธุรกิจการเกษตรกับพี่สาว ก่อนจะมาหายตัวไป ในเฟซบุ๊คของนายวันเฉลิม มีการแสดงความเห็นถึงการต่อต้านการเหยียดสีผิว และความเห็นการเมืองถึงรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง
การถูกอุ้มหายของนายวันเฉลิม กลายเป็นประเด็นการออกมาเรียกร้องให้มีการติดตามตัวนายวันเฉลิม และกระแส เซฟวันเฉลืม ที่ต้องไม่มีใครถูกอุ้มหาย และวันนี้มีนักเคลื่อนไหวและประชาชน นำไปยื่นหนังสือถึงสถานทูตกัมพุชาประจำประเทศไทยขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่าถูกชาย 3 คนอุ้มขึ้นรถยนต์ไปหน้าที่พัก ขอให้ติดตามตัวให้ปลอดภัยเพราะนายวันเฉลิมถือเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยคนหนึ่ง โดยทางกัมพูชาได้รับหนังสือเพื่อติดตามเรื่องนี้
ขณะที่ข่าว 3 มิติตรวจสอบแหล่งข่าวในประเทศกัมพูชา พบว่านายวันเฉลิม ไม่ได้มีสถานะผู้ลี้ภัย เนื่องจากนายวันเฉลิม ไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาสถานะ ซึ่งกัมพูชาจะเป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่ unhcr เนื่องจากกัมพูชา เป็นสมาชิกภาคีอนุสัญญาผู้ลี้ภัยปี 1951 จึงสามารถจัดตั้หน่วยงานสถานะตัวเองในการให้สถานะผู้ลี้ภัยได้