ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ประยุทธ์อยู่ยาว ! ซินแสเด็กลุง ยันแม้พายุแรงก็ต้านอยู่

#ประยุทธ์อยู่ยาว ! ซินแสเด็กลุง ยันแม้พายุแรงก็ต้านอยู่

17 August 2020
1134   0

17 ส.ค. 2563 05:06 น.

การปรับภูมิทัศน์บริเวณทำเนียบรัฐบาลหลายครั้ง เพื่อเสริมบารมีผู้นำประเทศ โดดเด่นสุดตึกภักดีบดินทร์เรือนรับรองใหม่อวดโฉมอยู่หลังตึกไทยคู่ฟ้า ห้องหับโต๊ะทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าถูกขยับปรับตามหลักฮวงจุ้ย ให้เป็นผู้นำได้ยาวนานขึ้นและบริหารบ้านเมืองสำเร็จตามเป้าหมาย แม้เผชิญพายุลูกแล้วลูกเล่

   “ซินแสรัฐบาลลุงตู่” นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นอีกคนที่มีบทบาทเด่นระดับประเทศในการดูฮวงจุ้ย บอกถึงดวงเมืองบนสถานการณ์การเมืองร้อน โดยมีขบวนการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนปลดแอก เศรษฐกิจทรุดเป็นโจทย์ใหญ่ให้แก้ไข

ดวงเมืองตั้งขึ้นตรงกับปีขาล เสือคืออำนาจ คือทหาร มีปืนไฟทหารดูแลบ้านเมือง บ้านเมืองเกิดเหตุการณ์อะไรทหารก็ออกมาช่วยดูแล และกลับเข้ากรมกองให้พลเรือนเข้ามาดูแล ขอตั้งข้อสังเกตว่าดูแลเมื่อไหร่มีเรื่องทุกที

ตรงกับเดือนมังกรเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องเต้ มีสถาบันพระมหากษัตริย์ดูแลบ้านเมือง ยามกระต่ายตั้งเสาหลักเมืองคือใจอ่อน ใจดีตรงกับอัธยาศัยของคนไทย จนขึ้นชื่อว่าสยามเมืองยิ้ม ธาตุน้ำคือเงินทอง การค้าขาย พาณิชย์ของไทย

ตามโบราณกาลเมืองไทยมีพระสยามเทวาธิราช ใครคิดร้ายหรืออกตัญญูต่อบ้านเมือง ย่อมอยู่ไม่ได้และราชวงศ์จักรีดูแลบ้านเมืองอีกยาวนาน

ขณะที่ทิศทางทำเนียบรัฐบาล ด้านหน้าดีครึ่ง เสียครึ่ง ทำเนียบรัฐบาลในรอบ 20 ปีนี้ไม่มีดวง ก่อนหน้านั้นใครเข้าไปก็เสวยสุข ช่วงหลังใครเข้าไปก็ค่อยแก้ปัญหา ส่วนทิศทางรัฐสภาใหม่เท่าที่ยืนเล็งดูจากด้านนอก ไม่ได้ดูรายละเอียดด้านใน ปี 2567 ถึงรุ่งเรือง

   ช่วงนี้บรรดารัฐมนตรีดวงดีมากกว่าดวงตก ดวงคนเปลี่ยนทุกปีครึ่ง ปีครึ่งเข้าเคราะห์ ปีครึ่งดี 12 ปีเจอปีชง 1 ครั้ง เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมโหงวเฮ้งสวย โหงวเฮ้งดี คางใหญ่ แม้พ้นอายุเข้าเคราะห์ แต่ยังอยู่ในปีชง ไม่ปลอดโปร่ง รอให้ถึงตรุษจีนปี 64 ถึงปลอดโปร่ง

   พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หน้ากลมเหมือนธาตุน้ำ ใส่แก้วเป็นรูปแก้ว ใส่ขวดเป็นรูปขวด ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คางสวย

    3 ป. แตกคอกันไม่ได้ ยังเป็นเสาหลักของบ้านเมือง

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ดวงยังดีอยู่ รัฐมนตรีบางคนปีมะเมียเป็นปีชง ดวงติดลบถึงไม่ได้เป็น รมว.พลังงานตามที่ต้องการ คนเราดวงมีเคราะห์ย่อมไม่ได้อะไรดั่งใจก็เขียนส่งไปให้ผู้ใหญ่พิจารณาตัดสินใจเอาเอง หลักการพยากรณ์ที่ดีไม่ทำตามกระแส ไม่ได้เอาใจนายกฯ

เราทำนายให้รู้ล่วงหน้า เพื่อก้าวไปข้างหน้าได้อย่างถูกต้อง

นายกฯเป็นคนที่ไม่เชื่อใครง่ายๆ ได้ข้อมูลภาพรวมก็เป็นเพียงองค์ประกอบนำไปวิเคราะห์ เรียนรู้จังหวะบ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้นล่วงหน้า 2-3 เดือน วันไหนที่มีโอกาสนั่งพูดคุยกับท่านก็จะถามว่าซินแสว่าอย่างไร พูดมา เราก็ทำนายตามหลักไป

เหมือนช่วงก่อนเกิดโควิดในประเทศไทย ไม่มีใครรู้จะเป็นเช่นนั้น ตามหลักพยากรณ์มองเหตุการณ์นี้ดีต่อดวงเมือง เมื่อดวงเมืองดีย่อมทำให้อะไรดีๆตามมา และดีต่อตัวนายกฯ

โดยบอกว่านายกฯทำงานต้องเหนื่อยด้วยตัวเองช่วงเดือน มี.ค.ไว้วางใจใครไม่ได้ ท่านตัดสินใจตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ขึ้น ตามกฎหมายเป็นการรวบอำนาจไว้ที่นายกฯหมด ซินแสไม่ได้เป็นผู้กำหนดชะตาแต่เป็นผู้บอกแนวทางล่วงหน้าการกระทำขึ้นอยู่กับตัวบุคคล

หนทางข้างหน้าวิกฤติสร้างโอกาสให้แก่นายกฯ ทั่วโลกยกย่องชื่นชมเมืองไทย ขอย้ำอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ 2สมัย ไม่นับรวมสมัยเป็นนายกฯในรัฐบาลคสช.

ยิ่งบ้านเมืองวุ่นวายอย่างนี้ต้องอยู่จัดระเบียบบ้านเมืองให้เข้าที่เข้าทางก่อน ณ เวลานี้ไม่มีใครที่มีบทบาท มีอำนาจ สามารถควบคุมทุกอย่าง ให้อยู่ในมือเหมือนนายกฯได้

ไม่มีใครมาแทนนายกฯได้

แต่เพื่อนสนิทโทรศัพท์มาสอบถามกันยกใหญ่ว่า โควิดระบาดแบบนี้ จังหวะนั้นแฟลชม็อบกำลังเคลื่อนไหวครั้งแรก อีกไม่กี่เดือนนายกฯแย่แน่นอน สุดท้ายนายกฯยังอยู่ในตำแหน่ง

คนเราไม่สามารถลิขิตทุกอย่างได้ ขึ้นอยู่กับดวงเมืองเกี่ยวข้องกับดวงบุคคลเป็นหลัก

หากใครคิดไม่ดีต่อบ้านเมือง

สุดท้ายแพ้ภัยในสิ่งที่ตัวเองทำ

ที่ผ่านมานายกฯรู้จักใช้คน ดึงคนเก่งด้านธุรกิจตั้งเป็นคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชน เพื่อให้คำเสนอแนะ การป้องกัน การแก้ปัญหาภาคธุรกิจเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด

รวมถึงการเชิญ 20 มหาเศรษฐีมาขอข้อคิดเห็นแก้ไขผลกระทบจากโควิด แม้ถูกโจมตีว่าเป็นยาจกไปขอทานเศรษฐี ความจริงขอความคิดเห็นที่ดีนำไปปรับใช้บริหารประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

หลังปรับ ครม.ลุงตู่ 2/2 รัฐบาลเผชิญการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ ม็อบประชาชนปลดแอก และกำลังมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพในกองทัพ ตามดวงเมือง ดวงผู้นำประเทศ มีผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองอย่างไร นายภาณุวัฒน์ บอกว่า ปีนี้ดวงเมืองตรงกับปีหนู จุกจิก วุ่นวาย แทะ แกะ กัด ทำลาย ข่าวลือ

ชงปีนายกฯด้วย ทำให้เกิดแต่เรื่องวุ่นวาย

พอถึงปี 64 ปีฉลู หลายอย่างเริ่มนิ่งขึ้น ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ใครทำชั่วเอาไว้ หนีไม่พ้นต้องรับกรรม เป็นไปตามกฎแห่งกรรม อาจจรลีหนีไปแดนไกล ในช่วง 2-3 ปีนี้เมืองไทยมีโอกาสรุ่งเรืองในหลายด้าน

แม้เกิดโควิดก็ยังเป็นผลดีต่อบ้านเมืองและโลก เพราะช่วงหลังมนุษย์ทำลายทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น หลงระเริงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ พอเกิดโควิดทุกคนเบรกหมด กลับมาคิดว่าจะอยู่อย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้

ทุกคนไม่ต้องกังวล รักษาตัวให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจในปีนี้ พอปีหน้าหลายๆอย่างจะดีขึ้น

ฉะนั้น ทุกฝ่ายโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลควรประคองกันไป เพื่อบริหารประเทศผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ ขอถามตรงๆ ทั้งรัฐมนตรีและ ส.ส.ตอนนี้มีใครอยากเลือกตั้งบ้าง ไม่มี

  อุปสรรคของรัฐบาลนับจากนี้ไปมีอะไรบ้าง นายภาณุวัฒน์ บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ในห้องไอซียู ตอนนี้กำลังพักฟื้น รัฐบาลจะปล่อยให้ประชาชนตายไม่ได้ ค่อยๆเยียวยาประชาชนให้มีชีวิตอยู่ให้ได้ก่อน เมื่อเศรษฐกิจฟื้น ทุกคนก็สามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ถึงรัฐบาลไม่มีเงินก็ต้องกู้ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติไปก่อน

แต่อย่าปล่อยให้เกิดคอร์รัปชัน กระทรวงไหนคอร์รัปชัน นายกฯควรชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ อย่ารับเป็นกระโถนท้องพระโรงรับทุกเรื่อง

ถึงบอกท่านนายกฯต้องนิ่งที่สุด อดทน ใจเย็น

เพราะในช่วงเดือน ส.ค.สถานการณ์การเมืองจะวุ่นวาย เหมือนลิงหลอกเจ้า เดือนนี้เป็นห่วงนิดหนึ่ง เดือน ก.ย.จะเผชิญปัญหาจุกจิก คุ้ยเขี่ย ต.ค.เป็นเดือนแห่งปากปีจอ ใครทำอะไรไม่ดี ไม่งามจะถูกขุดคุ้ย ถูกประจาน เดือน พ.ย.-ธ.ค.หลายอย่างเริ่มนิ่งและดีขึ้น

กองทัพกับรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นายภาณุวัฒน์ บอกว่า กองทัพมีหน้าที่ปกป้องสถาบันและประเทศ ผู้ที่ขึ้นเป็น ผบ.เหล่าทัพเชื่อมั่นถูกคัดกรองมาอย่างดี เรื่องสีเสื้อไม่ต้องพูดถึงมันผ่านไปแล้ว ถือเป็นบทเรียน

ขอให้ข้อคิดเยาวชนอย่าให้ถูกหลอกไปตามกลุ่มคนไม่กี่คน อย่าให้เมืองไทยตกอยู่ในสภาพเหมือนฮ่องกง เศรษฐกิจย่ำแย่ ตอนนี้คนรู้ทันกันหมด ไม่อยากกลับสู่วงจรรบราฆ่าฟัน เสียเลือดเสียเนื้อเหมือนในอดีต

ให้ข้อคิดผู้กุมอำนาจรัฐและกลุ่มประชาชนปลดแอกอย่างไร เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ นายภาณุวัฒน์ บอกว่า ข้อเรียกร้องบางเรื่องเป็นไปไม่ได้ เพียงต้องการให้บ้านเมืองก้าวเข้าสู่จุดที่บางฝ่ายต้องการ

รัฐบาลไม่ยอมอยู่แล้ว พยายามรับข้อเรียกร้องที่ถูกและทำได้

ข้อเรียกร้องที่ทำไม่ได้ก็ชี้แจงประชาชนว่าทำไมถึงไม่รับ

ภาพรวมทั้งหมดบ้านเมืองผ่านวิกฤติจุดนี้ไปได้

รัฐบาลสามารถบริหารจัดการรับภารกิจใหญ่ๆได้.