เมื่อวันที่ 6 ก.ย.โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ทางเลือกเหลือน้อยลงทุกขณะ หลังจากนายปรีดี ดาวฉาย อดีต รมว.คลังลาออก โดยทำสถิติรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดของประเทศ การปรับ ครม.ครั้งที่ผ่านมา อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนรูดม่านปิดฉากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2 ทางเลือกสุดท้าย คือ ลาออก หรือ ยุบสภา เชื่อว่า ทีมที่ปรึกษาคงกำลังหาแนวทางกันอยู่ ถ้าผ่านพ้นเดือน ก.ย. นี้ไปได้ ถือว่า ปาฏิหาริย์สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ สารพัดม็อบทั้งจากกลุ่มเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ผุดขึ้นทุกหย่อมหญ้า สโลแกนที่เคยหาเสียงว่า เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ วันนี้ ไม่มีอยู่จริง แต่คนที่ต้องจบ อาจเป็นตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง จะเกิดภาวะสุญญากาศทางกาบริหารในหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ ในแต่ละหน่วยงานจะอารยะขัดขืน หยุดรอดูการเปลี่ยนแปลงเพราะดูจากปฏิกิริยาของคนในสังคมพล.อ.ประยุทธ์ น่าจะรอดยาก หากยังพอมีความจริงใจจะถอดสลักความขัดแย้งจากสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ก็ต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะปัญหาการบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน จากกติกาการเลือกตั้ง ที่สร้างปัญหา ก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกอย่างหนักในประเทศ ปัญหาในเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ 2 เรื่อง คือ 1.ต้องใช้ระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ คือ ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ตรงตามเจตนารมณ์ในการเลือกตั้งส.ส. ของประชาชน 2.ต้องยกเลิกบทเฉพาะกาล ตัดสิทธิ์ ส.ว. ไม่ให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
“พล.อ.ประยุทธ์ จะหลบหลังโควิดตลอดไปไม่ได้ เพราะการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ ที่มาที่ไม่ชอบธรรม กติกาที่บิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน จนทำให้เกิดสภาพรัฐบาลปะผุ เตี้ยอุ้มค่อม น่ากลัวไม่แพ้โควิด” นายอนุสรณ์ กล่าว