ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #หวั่นเป็นเผด็จการรัฐสภา ! พลเอกสมเจตน์ ค้านโละกลไกลสว.

#หวั่นเป็นเผด็จการรัฐสภา ! พลเอกสมเจตน์ ค้านโละกลไกลสว.

13 September 2020
680   0

   พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. ให้ความเห็นต่อประเด็นความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 256 โดยเสนอให้ตัดเสียงส.ว.ที่ร่วมเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 1 ใน3 ออก และใช้เสียงข้างมากของรัฐสภาแทน ว่า เพราะความต้องการให้กลับไปเป็นระบบของสภาทาส เหมือนปี 2556  สมัยรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พรรคร่วมรัฐบาล เสนอให้แก้ไขมาตรา 111 ของรัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องที่มาส.ว. ที่ในการประชุมพบว่าพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.บางส่วนใช้มติข้างมาก ปิดการอภิปรายของฝ่ายค้าน ทำให้รัฐสภาถูกมองว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา และฝ่ายค้านขณะนั้นคือ พรรคประชาธิปัตย์ วางพวงหรีดประณามว่าเป็นสภาทาส อย่างไรก็ดีมาตรการที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้เสียงส.ว. จำนวน 1 ใน 3 และมีเสียงฝ่ายค้านลงมติเห็นชอบวาระสามของการแก้รัฐธรรมนูญ ที่ร้อยละ 20 เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน แก้ปัญหาเผด็จการรัฐสภา และสภาทาสดังนั้นหากตัดส่วนดังกล่าวออกเท่ากับว่าต้องการให้สภาฯ กลับไปเป็นสภาทาส เหมือนเดิม



             พล.อ.สมเจตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อเสนอให้ยกเลิกอำนาจส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี ว่า  ไม่มีความจำเป็นต้องปิดสวิซต์ส.ว. เพราะส.ว.ไม่มีน้ำยาเรื่องดังกล่าว เนื่องจากการเสนอชื่อนายกฯ นั้นเป็นสิทธิของพรรคการเมืองที่จะเสนอ ดังนั้นหากพรรคการเมืองใดไม่ต้องการให้บุคคลใดเป็นนายกฯ  ไม่ต้องเสนอชื่อ หรือหากไม่อยากให้ใครได้ตำแหน่งนายกฯ อย่าเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล.

หน้าที่ 2 จาก 2
'5แกนนำนปช.-ร.ต.ท.เชาวรินธร์'พ้นคุก เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.รายงานข่าวแจ้งว่า  เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรือนจำจะได้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีสำคัญ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย 1.นพ.เหวง โตจิราการ 2.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ 3.นายวรชัย เหมะ 4.ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ 5.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนายพายัพ ปั้นเกตุ ซึ่งเป็นกลุ่มนักโทษคดีการเมืองและอดีตรัฐมนตรี โดยทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา 6 (1) และ (2) (จ) เช่นเดียวกับผู้ต้องราชทัณฑ์อื่นๆ ที่เข้าเกณฑ์ได้รับการปล่อยตัวประมาณ 27,000 คน โดยผู้ต้องขังจะที่เตรียมการปล่อยตัวจะต้องทยอยเข้ารับการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ในโครงการโคกหนองนา เป็นเวลา 15 วัน

โดย นพ.เหวง นายวีระกานต์ และนายวรชัย ซึ่งเข้ารับการอบรมรุ่นแรก จะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ส่วน ร.ต.ท.เชาวรินทร์ นายวิภูแถลง และนายพายัพ จะเข้ารับการอบรมรุ่นที่ 2 ในวันที่ 16 ก.ย. นี้ จากนั้นจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 30 ก.ย.นี้



ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2563 ตามมาตรา 6 (1) ผู้ต้องโทษจำคุก ไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ซึ่งมีโทษจำคุกตามกำหนดโทษ ที่จะต้องได้รับต่อไปเหลืออยู่ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ผู้มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด

ส่วน (2)ผู้มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (จ) เป็นคนมีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ตามที่ปรากฏในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร หรือทะเบียนรายตัวของเรือนจำ ในกรณีไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดีซึ่งมีโทษจำคุก ตามกำหนดโทษที่จะต้องได้รับต่อไปเหลืออยู่ไม่เกิน 3 ปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ หรือเป็นคนมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป

สำหรับ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อดีตรมช.ศึกษาธิการ ผู้ต้องขังในความผิดคดีฉ้อโกงเงินซื้อปูนของบริษัทเอกชนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งต้องคำพิพากษาของศาลฎีกาให้จำคุก 2 ปี เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 63