.
หลังจาก “ทีวีดิจิทัล” เกิดการประมูลและผุดช่องออกมาหลายช่อง ย้อนกลับไปในตอนนั้นในสมองคงคิดกันแล้วว่า มันต้องมี “คอนเทนต์” ที่หลากหลายและเปิดโอกาสให้กับใครก็ได้ ที่เปรี้ยวปากอยากทำคอนเทนต์เสิร์ฟหน้าจอ กลายเป็น “โอกาส” หยิบชิ้นปลามัน สิ่งที่คิดคือ “สวนดอกไม้” แต่ในความเป็นจริง คือ “สนามรบ” ที่มีศพตายไม่รอเผาอยู่เป็นจำนวนมาก
.
จาก “โอกาส” ที่มี “นโยบาย” เจ๋งๆ บางช่องอยากผลิตรายการคุณภาพน้ำดี ส่งต่อประโยชน์ให้กับ “คนถือรีโมท” ไม่ว่าจะเป็นละครสอนใจ / รายการสารคดี / รวมถึงรายการข่าวที่เป็นข่าวจริงๆ ไม่ใช่ละครแอบแฝง / ในตอนนี้ก็แทบจะหมดลมหายใจ เพราะสิ่งที่ว่ามานี้ “ล้วน” แต่ไม่มีเรตติ้งหน้าจอทำให้ “รอด” ได้
.
กลายเป็น “สินค้า” ที่หลายคนบอกว่า “ดี” แต่ต่อให้ดีแค่ไหน? คนมันไม่ซื้อก็คือไม่ซื้อ นี่คือความจริงที่สวนทางกับคำพูดสนับสนุน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไม? ทีวีดิจิทัล ถึงมีแต่คอนเทนต์เดิมๆ ซ้ำๆ บางข่าวไม่เอื้อประโยชน์ในการดำรงชีวิต แต่ก็เอามานำเสนอจนคนในข่าว “ได้ดิบได้ดี” กลายเป็นมิติใหม่ของวงการทีวีไทยที่คนเบื้องหลังต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “แบบนี้ก็ได้หรอ”
.
คำถามที่ตามมาคือ คอนเทนต์กลุ่มนี้ยังเป็นที่ต้องการของสังคมอยู่ไหม? คงจะมีคนเปรี้ยวปากอยากบอกว่า “มีคนดูอยู่ ดูกันเยอะแยะ” แต่คำถามที่ตามมาคือ แล้วทำไม? เรตติ้งหน้าจอมันถึงน้อยนิดพิชิตต่ำศูนย์แบบนั้น กลายเป็น “คุณภาพ” มาไม่พร้อมกับ “เรตติ้ง” หรือเอาจริงๆ แล้ว “เสียงส่วนใหญ่” ต้องการความบันเทิงที่จัดเต็มมากกว่า “คุณภาพน้ำดี” เพราะเท่าที่ผ่านมา “ละครสอนใจ” สะท้อนสังคม แทบจะไม่มี “ทื่ยืน” ต่างจากละครผัวๆ เมียๆ หรือความรักหักสวาท แสดงว่า “คนถือรีโมท” ชอบทานอะไรแซ่บๆ มากกว่า แกงจืดที่รสชาติเบาบาง
.
รวมถึงรายการข่าวที่ผลิตด้วยคนคุณภาพ มีจรรยาบรรณ แต่ก็ยังสู้กับรายการข่าวแบบ “เล่าข่าว” ที่ตอนนี้กลายเป็นฮีโร่ของหลายช่อง ต้องเรียกได้ว่า อะไรคือทางออกของ “ผู้ผลิต” ของวงการทีวีกันแน่? ไหนจะต้องปั่นเรตติ้งให้ดี? แถมต้องมี “คุณธรรม” อีกด้วย เรื่องแบบนี้มันเป็นแค่เส้นขนาน หรือว่า มันสามารถบรรจบให้เกิดขึ้นได้จริงๆ
.
สิ่งที่ยังอยู่ในใจก็คือ จะมีช่องไหน “กล้า” ที่จะทำคอนเทนต์น้ำดีกลับสู่ผัง หรือว่า การเล่าคอนเทนต์ในรูปแบบเดิมๆ มันใช้ไม่ได้สำหรับ ยุคอะไรที่มาไวไปไวแบบนี้ ต้องปรับการนำเสนอให้ คม ชัด และรวดเร็ว จะรอดูวันนั้น วันที่ “คอนเทนต์น้ำดี” พิชิตใจคนดู และถ้าช่องไหนทำสำเร็จเป็นที่แรก จะกลายเป็นโมเดลใหม่ในวงการ “ทีวีดิจิทัล” แน่นอน
.
แต่ไม่ใช่ว่าในตอนนี้ คอนเทนต์น้ำดี จะไม่มีในผังนะ มีอยู่! แต่มานั่งดูเรตติ้งแล้วก็ได้แต่คำว่า “เวทนา” สุดท้ายตอนจบก็คงหนีไม่พ้นกับคำว่า “หลุดผัง” เพราะเรตติ้งหน้าจอน้อย โฆษณาก็ไม่เข้า จะปรับรายการใหม่ มีสินค้า Tie-in จนกลายพันธุ์เป็นรูปแบบที่ “คุ้นชิน” บนหน้าจอก็ไม่ใช่เรื่อง ทางออกคืออะไร? ช่วยบอกที
.
ส่วนถ้าใครมีคอนเทนต์ที่คิดว่าเจ๋ง เป็นประโยชน์ต่อคนดู แชร์มาได้เลยใต้คอมเม้นท์ ประกาศให้โลกรู้กันหน่อยว่า “ทีวีไทย” ก็มีอะไรสร้างสรรค์ให้ดู เป็นประโยชน์ต่อคนดู ใช้พื้นที่ตรงนี้บอกกล่าวกันได้เลยค่ะ
.
#เขวี้ยงรีโมท #ทีวีดิจิทัล #ละคร #รายการข่าว #วาไรตี้ #เกมโชว์ #ซีรีส์อนิจจา ทีวีไทย! คอนเทนต์ดีเท่าไหร่ก็ไม่มีเรตติ้ง
.
หลังจาก “ทีวีดิจิทัล” เกิดการประมูลและผุดช่องออกมาหลายช่อง ย้อนกลับไปในตอนนั้นในสมองคงคิดกันแล้วว่า มันต้องมี “คอนเทนต์” ที่หลากหลายและเปิดโอกาสให้กับใครก็ได้ ที่เปรี้ยวปากอยากทำคอนเทนต์เสิร์ฟหน้าจอ กลายเป็น “โอกาส” หยิบชิ้นปลามัน สิ่งที่คิดคือ “สวนดอกไม้” แต่ในความเป็นจริง คือ “สนามรบ” ที่มีศพตายไม่รอเผาอยู่เป็นจำนวนมาก
.
จาก “โอกาส” ที่มี “นโยบาย” เจ๋งๆ บางช่องอยากผลิตรายการคุณภาพน้ำดี ส่งต่อประโยชน์ให้กับ “คนถือรีโมท” ไม่ว่าจะเป็นละครสอนใจ / รายการสารคดี / รวมถึงรายการข่าวที่เป็นข่าวจริงๆ ไม่ใช่ละครแอบแฝง / ในตอนนี้ก็แทบจะหมดลมหายใจ เพราะสิ่งที่ว่ามานี้ “ล้วน” แต่ไม่มีเรตติ้งหน้าจอทำให้ “รอด” ได้
.
กลายเป็น “สินค้า” ที่หลายคนบอกว่า “ดี” แต่ต่อให้ดีแค่ไหน? คนมันไม่ซื้อก็คือไม่ซื้อ นี่คือความจริงที่สวนทางกับคำพูดสนับสนุน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไม? ทีวีดิจิทัล ถึงมีแต่คอนเทนต์เดิมๆ ซ้ำๆ บางข่าวไม่เอื้อประโยชน์ในการดำรงชีวิต แต่ก็เอามานำเสนอจนคนในข่าว “ได้ดิบได้ดี” กลายเป็นมิติใหม่ของวงการทีวีไทยที่คนเบื้องหลังต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “แบบนี้ก็ได้หรอ”
.
คำถามที่ตามมาคือ คอนเทนต์กลุ่มนี้ยังเป็นที่ต้องการของสังคมอยู่ไหม? คงจะมีคนเปรี้ยวปากอยากบอกว่า “มีคนดูอยู่ ดูกันเยอะแยะ” แต่คำถามที่ตามมาคือ แล้วทำไม? เรตติ้งหน้าจอมันถึงน้อยนิดพิชิตต่ำศูนย์แบบนั้น กลายเป็น “คุณภาพ” มาไม่พร้อมกับ “เรตติ้ง” หรือเอาจริงๆ แล้ว “เสียงส่วนใหญ่” ต้องการความบันเทิงที่จัดเต็มมากกว่า “คุณภาพน้ำดี” เพราะเท่าที่ผ่านมา “ละครสอนใจ” สะท้อนสังคม แทบจะไม่มี “ทื่ยืน” ต่างจากละครผัวๆ เมียๆ หรือความรักหักสวาท แสดงว่า “คนถือรีโมท” ชอบทานอะไรแซ่บๆ มากกว่า แกงจืดที่รสชาติเบาบาง
.
รวมถึงรายการข่าวที่ผลิตด้วยคนคุณภาพ มีจรรยาบรรณ แต่ก็ยังสู้กับรายการข่าวแบบ “เล่าข่าว” ที่ตอนนี้กลายเป็นฮีโร่ของหลายช่อง ต้องเรียกได้ว่า อะไรคือทางออกของ “ผู้ผลิต” ของวงการทีวีกันแน่? ไหนจะต้องปั่นเรตติ้งให้ดี? แถมต้องมี “คุณธรรม” อีกด้วย เรื่องแบบนี้มันเป็นแค่เส้นขนาน หรือว่า มันสามารถบรรจบให้เกิดขึ้นได้จริงๆ
.
สิ่งที่ยังอยู่ในใจก็คือ จะมีช่องไหน “กล้า” ที่จะทำคอนเทนต์น้ำดีกลับสู่ผัง หรือว่า การเล่าคอนเทนต์ในรูปแบบเดิมๆ มันใช้ไม่ได้สำหรับ ยุคอะไรที่มาไวไปไวแบบนี้ ต้องปรับการนำเสนอให้ คม ชัด และรวดเร็ว จะรอดูวันนั้น วันที่ “คอนเทนต์น้ำดี” พิชิตใจคนดู และถ้าช่องไหนทำสำเร็จเป็นที่แรก จะกลายเป็นโมเดลใหม่ในวงการ “ทีวีดิจิทัล” แน่นอน
.
แต่ไม่ใช่ว่าในตอนนี้ คอนเทนต์น้ำดี จะไม่มีในผังนะ มีอยู่! แต่มานั่งดูเรตติ้งแล้วก็ได้แต่คำว่า “เวทนา” สุดท้ายตอนจบก็คงหนีไม่พ้นกับคำว่า “หลุดผัง” เพราะเรตติ้งหน้าจอน้อย โฆษณาก็ไม่เข้า จะปรับรายการใหม่ มีสินค้า Tie-in จนกลายพันธุ์เป็นรูปแบบที่ “คุ้นชิน” บนหน้าจอก็ไม่ใช่เรื่อง ทางออกคืออะไร? ช่วยบอกที
.
ส่วนถ้าใครมีคอนเทนต์ที่คิดว่าเจ๋ง เป็นประโยชน์ต่อคนดู แชร์มาได้เลยใต้คอมเม้นท์ ประกาศให้โลกรู้กันหน่อยว่า “ทีวีไทย” ก็มีอะไรสร้างสรรค์ให้ดู เป็นประโยชน์ต่อคนดู ใช้พื้นที่ตรงนี้บอกกล่าวกันได้เลยค่ะ
.