06.39 น. เริ่มพิธีปักหมุดคณะราษฎรใหม่ หมุดมีข้อความส่วนหนึ่งว่า #ประเทศนี้เป็นของราษฎรไม่ใช่สมบัติของกษัตริย์ตามที่เขาหลอกลวง
และมีการสวดขอให้ผู้ที่คิดจะรื้อถอนหมุดต้องพบกับความวิบัติชิบหายและเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า
ข้าแต่ดวงวิญญาณทุกวิญญาณที่สละชีพเพื่อประชาธิปไตยในสนามหลวงและธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ข้าแต่อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ผู้เป็นมันสมองในการวางรากฐานประชาธิปไตย
จอมพลป.ผู้เป็นหัวหอกหลักในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ครูครอง จันดาวงศ์ ผู้สละชีพเข้าสู่หลักประหารอย่างท้าทรนง
ข้าแต่จารุพงศ์ ทองสินธุ์ และเพื่อนนักศึกษาที่สละชีพเพื่อการต่อสู้ในวันที่ 6 ตุลาคม
ข้าแต่วิญญาณวีรชน 35 ที่กองทัพปิดไฟทั้งสนามหลวงและล้อมยิงอย่างโหดร้ายเพียงเพราะเขาไม่เอานายกฯ คนนอก
ข้าแต่ลุงนวลทอง ไพรวัลย์ ผู้กล้าสละชีพเพื่ออุดมการณ์
ข้าแต่วีรชน 53 พยาบาลเกด น้องเฌอ ….
แม้เป็นไพร่ก็ต้องมีที่ยืนไม่ต่างจากพวกเจ้า
แม้ดวงวิญญาณสถิตย์ที่ไหน ดวงวิญญาณบนสวรรค์บนฟ้า
ขอจงเหาะเหินมาสถิตย์ที่นี่
เชิญชุมนุมดวงวิญญาณทุกท่าน
ในการพิสูจน์และประกาศศักดาว่า
วันนี้คณะราษฎรยังไม่ตายและไม่มีมีวันตาย
ขอความศักดิ์สิทธิ์และชัยมงคลทุกอย่าง
จงสถิตย์ในหมุดคณะราษฎรอันใหม่นี้
ราษฎรจงมีชัยชนะ
เรามาต่อสู้เพื่อสานต่อเจตนารมณ์
เรามีชีวิตเราจะสู้ในฐานะคนที่มีชีวิต
ท่านเป็นดวงวิญญาณก็ต่อสู้กับเราในฐานะดวงวิญญาณ
ฯลฯ
จากนั้นมีการอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง 10 ข้อในการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และนัดรวมตัวกับประชาชนอีกครั้งในเวลา 8.00 น.เพื่อเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล