เมื่อเช้า 8.25 นาที คุณวัฒนาโทรมาบอกว่ามีการส่งข่าวให้รีบหนีเถอะ ศาลจะตัดสินจำคุกตลอดชีวิต คำตอบคือ “ไม่หนี จะไปศาล”
นั่นคือแนวทางที่เราสนับสนุนมาตลอด
ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ คตส.ตั้งเรื่องหลังรัฐประหาร 49 ปปช.ชี้มูลหลังรัฐประหาร 57 จนสุดท้ายคดีที่ไม่มีความซับซ้อนมาถึงศาลในที่สุด คำว่า “หนี” ไม่เคยอยู่ในทางเลือก ไม่ใช่เพียงเพราะความเป็นนักกฎหมายที่สอบเนติบัณฑิตได้ลำดับ 7 แล้วสู้คดีด้วยตนเอง หรือความเชื่อมั่นว่าความยุติธรรมนั้นมีอยู่ลึกๆในใจนักกฎหมายทุกคน แต่เป็นเพราะทุกข้อกล่าวหาในคดีนี้เป็นข้อกล่าวหาที่ตรงข้ามกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ชนิดที่เรียกว่า “ถ้าเป็นคดีปกติก็ไม่มีทางมาถึงศาลได้” เขาเชื่อในความบริสุทธิ์ของตนเอง
แต่ความน่าเห็นใจของ “นักการเมือง” ก็คือ เมื่อเป็นคดีที่ถูกแปะฉลากว่าทุจริต ไม่ใช่คดีแบบเราๆที่เป็นนักกิจกรรม ความเห็นใจจากสังคมก็แทบไม่มี และยังต้องอดทนกับศาลเตี้ยและการดูหมิ่นจากสังคมมาตลอด 14 ปี ทั้งที่เนื้อหาของคดีไม่มีน้ำหนักเพียงพอจะมาถึงศาลได้ใน 12 ปีแรก
เขาพูดตลอดว่า ปกติคดีอาญาต้องมีพยานหลักฐานพิสูจน์จนสิ้นสงสัยจึงจะเอาผิดได้ แต่ไม่ใช่คดีของคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ เขาต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่เพียง 100% แต่ต้องทำให้ได้ 200% ซึ่งเขาก็มั่นใจว่าทำได้เช่นนั้น ตามความจริงซึ่งมีหนึ่งเดียว จึงไม่เคยประวิงเวลาใดๆ เดินขึ้นศาลด้วยความเชื่อมั่นจนวันสุดท้าย แม้กระทั่งเช้านี้ที่รู้ข่าวคำพิพากษาล่วงหน้า
โบว์เคยถามว่า ทำไมไม่เอาข้อเท็จจริงมาเปิดเผย สังคมจะได้รับรู้ไปพร้อมๆกัน เพราะหลักการพิจารณาคดีก็ต้องโปร่งใสอยู่แล้ว เขาบอกว่าต้องเคารพคำสั่งศาล ที่ห้ามการสื่อสารทุกอย่างเกี่ยวกับคดีระหว่างการพิจารณา … แน่นอนว่า ศาลก็ไม่สามารถห้ามการค่อนขอดหรือการแชร์ข้อมูลเท็จ เช่นรูปโครงการที่เกิดในสมัยรัฐบาลอื่นหลังการรัฐประหารเพื่อดิสเครดิตกันได้เลย
หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดของวันนี้ วัฒนา เมืองสุข คงอยากขอบคุณกัลยาณมิตรทุกคนที่ยืนเคียงข้างกันมาตลอดแม้ไม่ได้เอ่ยนาม คงอยากให้ลูกๆทุกคนได้ภูมิใจในความเป็นนักสู้ของพ่อ ที่ไม่เคยโอ้อวดแต่แสดงให้เห็นจริงด้วยการยืนบนความถูกต้องเพื่อหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ยอมรับการต่อรองใดๆตั้งแต่ต้นจนสุดทาง และสิ่งสุดท้ายที่คุณวัฒนาพยายามทำจนถึงเมื่อวาน ก็คือการต่อสู้เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
เขาบอกว่านั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำไว้ให้คนรุ่นหลังในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง
โบว์เลือกรูปนี้จาก iLaw มาประกอบโพสต์นี้ เพราะเป็นภาพที่คุณวัฒนาเคยภูมิใจไม่น้อยเมื่อได้เห็น ทั้ง 10 คดีที่เคยมี เกือบทั้งหมดมาจากการต่อสู้กับเผด็จการ มาจากการยืนยันในสิทธิเสรีภาพบนหลักนิติธรรมเพื่อปกป้องประชาชนในฐานะ “นักการเมือง” คำเรียกตัวเองที่เขาภูมิใจ
ส่วนบทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์ใน cover photo ที่เพจนั้น เขาขอให้ทำให้และพิสูจน์ว่าเป็นได้เช่นนั้นตลอดมา
https://www.facebook.com/684312115037654/posts/2006027602866092/?extid=E..