มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งสร้างขุมพลังแห่งปัญญาของชาติเพื่อปฏิรูปประเทศไทยสู่สังคมธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
เราจึงส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการสร้างและเรียกร้องความถูกต้องชอบธรรมทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ในทุกโอกาส เพื่อบรรลุเป้าหมาย
การต่อสู้เรียกร้องร่วมกับ กปปส ของเราก็เพื่อความถูกต้องชอบธรรมทางการเมือง และได้สิ้นสุดลงเพียงเมื่อเป้าหมายนั้นบรรลุผลสำเร็จเท่านั้น มิได้ต่อยอดเลยไปถึงสนับสนุนเห็นดีเห็นงามกับการรัฐประหาร หรือสนับสนุนรัฐบาลที่เข้ามาเป็นหลังจากนั้นแต่ประการใด และยังไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของรัฐบาล คสช และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หลัง คสช ด้วย
การชุมนุมประท้วงเรียกร้องความถูกต้องชอบธรรมทางการเมืองครั้งนี้ เราเห็นด้วย ถ้าจำกัดอยู่แต่เรื่องการเมืองเท่านั้น
เรายังไม่เห็นด้วย ในเรื่องที่ก้าวล่วงไปเกียวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าในเรื่องส่วนตัวหรือสถาบัน
ทั้งนี้เพราะ เห็นว่ายังไม่มีระบอบการปกครองใดที่จะดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย เท่ากับ ระบอบสังคมสว้สดิการธรรมาประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
พูดง่ายๆคือ ระบอบสังคมธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
อีกประการหนึ่ง ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงต่างๆเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งสถาบันและเรื่องส่วนตัว ยังคลาดเคลื่อนถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงในมากมายหลายเรื่อง ประชาชนยังได้รับรู้และเข้าใจคลาดเคลื่อนอีกมาก และพระมหากษัตริย์ไม่มีโอกาสและไม่ประสงค์ที่จะชี้แจงใดใด แต่จำเป็นต้องดำเนินการแบบปิดทองใต้องค์พระปฏิมา
พระองค์ท่านมีพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนกที่จะครองแผ่นดินโดยธรรมยังความผาสุกมาสู่มหาชนชาวสยาม
พระราชทรัพย์ทั้งหมดของพระราชวงค์และพระองค์ท่าน ซึ่งเราได้ทราบแล้วว่า ทรงร่ำรวยมากกว่ากษัตริย์องค์ใดของต่างประเทศพระองค์ท่านก็มิได้มุ่งไว้ใช้ส่วนพระองค์แต่อย่างใด เพราะส่วนพระองค์ก็เหลือล้นอยู่แล้ว แต่มุ่งที่จะนำมาสร้างความผาสุกแก่ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะในยามยากยามวิกฤตเช่นนี้
ในด้านการปฏิรูปประเทศทุกด้านก็อยู่ในพระราชปณิธานของท่านอยู่แล้ว เพียงแต่เวลาและโอกาสนั้นยังมาไม่ถึง แต่เชื่อและมั่นใจว่าจะมาถึงในไม่ช้านี้
ยกตัวอย่างเรื่อง กฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ฝ่ายการเมืองชอบนำมาใช้เพื่อปกป้องตนเองและลงโทษฝ่ายตรงข้ามและทำลายสถาบันไปในตัว พระองค์ท่านก็ไม่โปรดให้นำมาใช้ แต่พระองค์ท่านไม่มีอำนาจสั่งให้ยกเลิก เพราะเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ
ผมไม่ได้ถูกใช้ให้ออกมาเสนอความเห็นในลักษณะนี้ แต่ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง อยากจะเรียนว่า ผมคืดว่าผมเข้าใจ สงสารและเห็นใจในสถานะของพระมหากษัตริย์ในสถานการณ์เช่นนี้ ว่า พระองค์ท่านมิได้มีความสุขใดใดอย่างที่อาจเข้าใจกัน พระองค์ทรงแบกภาระรับอนาคตของประเทศชาติและประชาชนไว้อย่างเต็มที่ตลอดเวลาโดยมิได้ทอดทิ้งเลย
ดังนั้นการชุมนุมประท้วงที่ก้าวล่วงขึ้นไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงยังไม่เห็นควรและไม่อยากให้กระทำ ขอให้เวลาและโอกาสอีกไม่นานนัก ทุกอย่างจะคลี่คลายกระจ่างขี้น ว่าเหตุการณ์ต่างๆมิได้เป็นอย่างนั้นเลย
โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่า พระมหากษัตริย์ทรงรักและห่วงใยประชาชนทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของชาตื และยังฝันไปว่า ถ้าพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขของชาติจะได้ร่วมมือร่วมใจกับประชาชนส่วนรวมทุกหมู่เหล่า ได้สร้างชาติ ปฏิรูปประเทศในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ด้วยแนวทางราชประชาสมาสัย พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับที่สมบูรณ์แบบทึ่สุดที่ร่วมสร้างกับประชาชนแก่ประเทศชาติและประชาชน และไม่ปล่อยให้ นักการเมือง ทหาร ข้าราชการ มาใช้อำนาจเหล่านั้นแทนเราและเหนือเรา
ประเทศชาติเราน่าจะศิวิไลช์และผาสุกที่สุดเป็นต้นแบบและเป็นที่อิจฉาของนานาประเทศ
ขออย่างเดียว ขอให้เข้าใจ มองเห็น อดทน ร่วมมือมือร่วมใจโดยวิธีราชประชาสมาสัย ประเทศไทย จะเป็นมหาอำนาจในสุวรรณภูมิแดนศิวิไลซ์แน่นอน