เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 พรรคฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังปวงชนไทย ได้ประชุมเพื่อพิจารณาญัตติการเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 165 ของนายกรัฐมนตรีในสมัยวิสามัญระหว่างวันที่ 26-27 ต.ค. โดยหลังประชุม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมฝ่ายค้านเห็นว่า การเขียนญัตติดังกล่าวของรัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อให้ร้ายการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม และแสดงถึงความไม่จริงใจ แต่พรรคฝ่ายค้านจำต้องเข้าร่วมเพื่ออธิบายข้อเท็จจริงทั้งหมด อีกทั้งเวทีแบบนี้ควรพูดกันหาทางออกให้ประชาชน เพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ รวมถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้น
ด้านนายสุทิน คลังเเสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับญัตตินี้ เพราะการเปิดสภาสมัยวิสามัญ อาจไม่นำไปสู่การแก้ไขหาทางออก ดังนั้นรูปธรรมที่จะเป็นทางออกได้ จะต้องนำเอา 3 ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมมาพูดกัน แต่ญัตติที่รัฐบาลยื่นมา ขาดสาระในเรื่องนี้ทั้งหมด และยังมีการนำเรื่องการขัดขวางขบวนเสด็จมาพูดคุย จะกลายเป็นการขยายความขัดแย้งขึ้นมาอีก เป็นการกล่าวหาและผลิตซ้ำความไม่พอใจใหม่ขึ้นมา สะท้อนถึงการกล่าวหาใส่ร้ายผู้ชุมนุม และความไม่จริงใจ
อีกทั้งยังเป็นการหยิบจุดอ่อนของประชาชนมาฟอกตัวเอง และญัตติดังกล่าวรัฐบาลไร้วุฒิภาวะ อาจขัดต่อข้อบังคับ กระทบความเสียหายในวงกว้าง ฝ่ายค้านจึงจำเป็นต้องเข้าร่วมประชุม เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงที่ประชาชนถูกกล่าวหา เพื่อไม่ให้รัฐบาลและพรรคร่วม รวมถึง ส.ว. อภิปรายด้วยข้อมูลด้านเดียว
ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ญัตติของรัฐบาลเป็นการกล่าวหาให้ร้ายประชาชน ดังนั้นพรรคฝ่ายค้านจึงต้องเข้าไปอภิปรายปกป้องสิทธิให้ความยุติธรรมกับประชาชน หวังว่า ประธานจะควบคุมการประชุม ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่า