4 ม.ค.64 – นายพิจารณ์ เชาวพัฒนพงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังสภาเลื่อนประชุมหลีกการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า พรรคก้าวไกลรู้สึกผิดหวังที่ที่ประชุมมีความเห็นให้งดการประชุมออกไป 2 สัปดาห์ ตนเห็นว่าการประชุมยังสามารถทำได้ หากมีการวางมาตรการป้องกัน เช่น ขณะนี้มี ส.ส. 488 คน เราสามารถเรียกประชุมโดยให้แต่ละพรรคการเมืองส่งตัวแทนมาร่วมประชุมสภาฯ โดยใช้จำนวน ส.ส.เพียง 245 คน ก็เพียงพอ พร้อมกับวางมาตรการเว้นระยะห่างในห้องประชุม เพื่อที่การประชุมจะได้ดำเนินการต่อไปได้ และให้มีการแก้ไขข้อบังคับให้มีการประชุมแบบออนไลน์ได้ด้วย
นายพิจารณ์ กล่าวว่า การเลื่อนประชุมออกไป 2 สัปดาห์ หากการระบาดของโควิด-19 ยังไม่ลดลง ก็อาจจะต้องเลื่อนไปอีก ทำให้การผ่านกฎหมายหลายฉบับเกิดความล่าช้า เช่น การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม ตรงนี้จะได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะข้อบังคับกำหนดไว้ว่าไม่สามารถใช้การประชุมออนไลน์ได้ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่สภาไม่ปรับตัว ทั้งที่ต่างประเทศไปไกลกว่านี้แล้ว
นายพิจารณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ อาจส่งผลกระทบต่อไทม์ไลน์การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ตามข้อบังคับการประชุมนั้น เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางสามารถขอยื่นได้ภายในสมัยประชุม ซึ่งรอบนี้จะหมดภายในสิ้นเดือน ก.พ. หากสถานการณ์เเพร่ระบาดยืดเยื้อ เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีการเปิดอภิปรายได้ทันในสมัยประชุม แต่อาจจะต้องเป็นการเปิดประชุมสมัยวิสามัญหลังจาก ก.พ.ไปแล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดต่อไป อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขเวลาในการยื่นญัตติยังสามารถยืดได้ แม้จะไม่เปิดประชุมสภาฯ พรรคฝ่ายค้านก็ยังสามารถยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่อยู่ที่ประธานรัฐสภาว่าจะบรรจุเมื่อไหร่ อยู่ที่ดุลยพินิจของท่าน และอยู่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคด้วย