ตามที่พบการระบาดของยาเคชนิดใหม่ ที่ชื่อว่า “ยาเคนมผง” จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ในพื้นที่ บก.น.5 เขต สน.วัดพระยาไกร, สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.บางโพงพาง ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนพิสูจน์ความเชื่อมโยงของยาเสพติดดังกล่าวนั้น
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 2564นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยสส.เขตสายไหม เปิดเผยว่า ยาตัวนี้เริ่มระบาดในพื้นที่สายไหมเมื่อ 7 วันที่แล้ว โดยทางเราได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านจากทาง เพจสายไหมต้องรอด และจากทาง สส.ของเขตสายไหม ว่ามียาชนิดใหม่ มีส่วนผสมมียานอนหลับชนิดรุนแรง ยาไอซ์ ยาเฮโรอีน และมาผสมกับยาเค จึงเกิดเป็นยาเคนมผง เพราะ ยาเค ในช่วงเวลานั้นกำลังขาดตลาด
ทั้งนี้ยาเค หรือเคตามีนที่กลุ่มวัยรุ่นใช้ในสถานบันเทิงนี้ ก็มีรูปแบบการใช้ด้วยการสูดดมเกินอาการมึนชั่วคราว ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ส่วนยาตัวใหม่นี้จะมีอาการคล้ายคนบ้า ขาดสติ โวยวาย 3-4 วัน มีกลุ่มวัยรุ่นติดกันงมงาย ฤทธิ์มันแรงมหาศาล สาเหตุที่ระบาดเยอะเพราะราคามันถูกว่าครึ่งต่อครึ่ง กรัม 1 มีราคา 4-5 ร้อยบาท
“เริ่มระบาดไปทั่ว กทม. เพราะราคามันถูก เอายาไอซ์มาเป็นส่วนผสม เมื่อเสพแล้วติด แล้วมันจึงทำให้เกิดความรุนแรง เมื่อผู้เสพได้สูดดมไป ก็จะทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง 3-4 วัน อาการนี้จะเกิดจากคนที่ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น ถ้าเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอ เมื่อดมไปก็จะร่วงเลย หมดสติไปเลย เข้ารพ.นับสิบรายแล้วบางคนมีปัญหาทางสติไปเลย หรือถึงขั้นตายตามที่เป็นข่าว ซึ่งผมเคยพูดไปแล้วว่าจะต้องมีคนเสียชีวิตจากยาเสพติดตัวใหม่นี้ ก็เกิดขึ้นจริงๆในวันนี้ เพราะฤทธิ์มันร้ายแรงจริงๆ ถ้ายังไม่มีการสกัดยาตัวนี้อาจจะมีคนเสียชีวิตกับยาตัวนี้ นับร้อยคน ในพื้นที่ของผม มีหลายคนยังนอนรักษาตัวอยู่รพ. ยาตัวนี้มันกดประสาทมากจริงๆ
ในอนาคตจะมีคนเสียชีวิตเพราะยาตัวนี้มากกว่าโควิด ผมอยากจะฝากให้ทางภาครัฐศึกษาปัญหานี้อย่างจริงจัง แล้วหยุดวงจรผู้ซื้อ ผู้ขายให้ได้ หน่วยงานต้องลงมาสัมผัสผู้ติดยาเสพติดจริงๆ แล้วก็ควรมีการเพิ่มโทษให้มันหนักขึ้น สำหรับผู้เสพ ทุกวันนี้โทษมันเบามาก“ นายเอกภพกล่าว