เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.00 น. ที่หน้าอาคารศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานตามแผนพิทักษ์นิบง 1/64 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ จ.ยะลา และสงขลา ได้ร่วมกันปฏิบัติการเข้าปิดล้อมเป้าหมายในพื้นที่ 19 เป้าหมาย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สุธิตา แสนสุด นายหายอ ลือมูซอ และนายสุนทรี แวลาเตะ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 30,000 เม็ด ผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การยืนยันว่ายาบ้าของกลางดังกล่าวเป็นของนายแบมะ หรือ นายธีระรักษ์ จันทรรังษี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผลของ ตำรวจภูธรยะลา จึงร่วมกันสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของนายแบมะ ดังกล่าว จนกระทั่งสามารถเสนอขออนุมัติต่อเลขาธิการ ปปส. เพื่อออกหมายจับ นายธีระรักษ์ กับพวกได้รวม 6 คน และศาลจังหวัดยะลา ได้ออกหมายจับนาย ธีระรักษ์ กับพวกรวม 6 คน ประกอบด้วย นายธีระรักษ์ จันทรรังษี อายุ 41 ปี นายอัสซานุสซี สามะ อายุ 34 ปี น.ส.สุนิตา กูโน อายุ 32 ปี น.ส.มชิมา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี น.ส.ซอฟียา กิ้มเกี้ยว อายุ 28 ปี และน.ส.พัชรินทร์ เหมโก อายุ 27 ปี
“และเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่สามฝ่ายได้ร่วมกันเปิดแผนยุทธการ “พิทักษ์นิบง 1/64” เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับดังกล่าว พร้อมกับยึดทรัพย์ตามพ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามยาเสพติด พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินฯ โดยปิดล้อมตรวจค้นใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร 1 จุด อำเภอหาดใหญ่ จำนวน 8 จุด อำเภอสะบ้าย้อย จำนวน 6 จุด อำเภอเทพา จำนวน 1 จุด อำเภอเมืองยะลา จำนวน 2 จุด และอำเภอรามัน 1 จุด รวม 19 จุด ซึ่งผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้ง 6 คน และยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา 1 คน คือ นาย มะรูดิง มะหิเละ ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน คือ น.ส.มชิมา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายอนัส (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ด.ช.ลือชัย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นายอนุชา สาและ อายุ 30 ปี นายอิรฟาล ตอลอ อายุ 23 ปี และนายอิสมาแอล เต็นหัด อายุ 22 ปี ถูกจับพร้อมของกลาง ยาบ้า 1,000 เม็ด พืชกระท่อมและยาแก้ไอ โดยสรุปสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 13 ราย” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าว
พลตำรวจโทรณศิลป์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่สามารถตรวจยึดได้ประกอบด้วย รถบัส 1 คัน รถยนต์ 12 คัน รถจักรยานยนต์ 15 คัน อาวุธปืนยาว 2 กระบอก อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก เงินสด 180,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 29 เล่ม ตู้เซฟ 2 ตู้ ทองรูปพรรณ หลายรายการ วัว 14 ตัว ไอแพด 2 เครื่อง โทรศัพท์ และโฉนดที่ดิน และอุปกรณ์การเกษตร อีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 40 ล้านบาทเศษ ทั้งนี้จากการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาจะเห็นว่า เมื่อมีการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ มักจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงตามมา ซึ่งได้สั่งการให้เฝ้าระวัง และมีมาตรการป้องกันในพื้นที่เสี่ยงแล้ว.-สำนักข่าวไทย