!!!!!!!!!!!!!แต่งเลียนแบบหรือพระปลอมมันก็ครือๆกันนั่นแหละ แล้วยังไงต่อ
วันนี้ เฟซบุ๊ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีพ้นจากพระภิกษุโดยไม่เปล่งวาจา มีเนื้อหาดังนี้ ปัจจุบัน ข่าวคราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์ ยังปรากฎอยู่ให้ชาวพุทธต้องถกเถียงกันอยู่เนือง ๆ การพ้นจากความเป็นพระภิกษุจะต้องเปล่งวาจาตลอดไปหรือไม่ ตามที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์หรือสื่อช่องทางอื่น ๆ ปรากฎมีพระภิกษุ 2 รูป ร่วมชุมนุมทางการเมืองแล้วถูกเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ให้สละสมณเพศเสีย
.
เวลาผ่านไปหนึ่งวัน มีข่าวสังคมออนไลน์พระที่ถูกจับสึก กลับมาห่มจีวรอีกครั้ง โดยอ้างว่าไม่ได้เปล่งวาจายังคงเป็นสงฆ์อยู่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า ประเด็นดังกล่าว หากไม่นำเสนอความจริงต่อสังคม อาจทำให้เป็นกระแสกระทบต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาได้ จึงขอยกเอาแนวทาง และหลักการ กรณีพระภิกษุพ้นจากความเป็นสงฆ์ โดยไม่ได้เปล่งวาจา มาบอกกล่าวในข้อเท็จจริง ดังนี้
.
พระภิกษุรูปนั้น พ้นจากความเป็นสงฆ์ตามกฎมหาเถรสมาคม (มส.) ฉบับที่ 21 (พ.ศ.2538) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ในกรณีพระภิกษุรูปใดไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองวัด หรือพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองสงฆ์ในเขตท้องที่ที่พบพระภิกษุรูปนั้น มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ตามที่กล่าวข้างต้น ปรากฎมีพระภิกษุมาร่วมชุมนุมทางการเมือง 2 รูป ถูกเจ้าคณะผู้ปกครองให้สละสมณเพศ ประกอบด้วย
…
1. พระประนมกร พุทฺธิเชฏโฐ สังกัดวัดเลียบ จังหวัดสุรินทร์ หรือนายประนมกร ปราณีต
2. พระวิรัช กิตติญโณ สังกัดวัดราษฎร์รังสรค์ จังหวัดกระบี่ หรือนายวิรัช แช่
…
พ้นจากความเป็นพระภิกษุเหตุไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 (พ.ศ.2538) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ และได้บันทึกสารภาพยอมรับผิด สมัครใจที่จะลาสิกขา
.
โดยมีพยานประกอบด้วยเจ้าคณะแขวงดุสิต เจ้าคณะแขวงถนนนครไชยศรี พระวินยาธิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และได้บันทึกไว้ในหนังสือสุทธิว่า “ได้ลาสิกขาโดยสมัครใจ เพราะต้นสังกัดเดิมไม่รับรอง”
.
ดังนั้น การที่นายประนมกร ปราณีต และนายวิรัช แซ่คู เอาผ้าเหลืองมาห่มแล้วอ้างว่า ยังเป็นสงฆ์อยู่ เพราะไม่เปล่งวาจาสึก ถือว่าเป็นการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 4 ความผิดเกี่ยวกับศาสนา มาตรา 208 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
——————————-