วันนี้ ศาลอาญาได้ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า ตามที่ศูนย์ทนายความแห่งหนึ่งได้นำเสนอข่าวกระบวนพิจารณาคดีที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงศาลอาญาขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
…
1. คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 287/2564 ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ และนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชีวารักษ์ กับพวกรวม 22คน ศาลได้อนุญาตให้ญาติของจำเลย มวลชน ประชาชน ผู้แทนสถานทูตและองค์กรต่างๆ และสื่อมวลชนเข้าฟังการพิจารณาคดีดังกล่าวอย่างเต็มที่ แต่เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2564 เกิดเหตุการณ์ที่จำเลยและมวลชนบางคนถือโอกาสทำให้เกิดความวุ่นวาย เช่น ยืนแถลงการณ์บนเก้าอี้ และขว้างปาสิ่งของในห้องพิจารณาโดยไม่สนใจกฎระเบียบ อันเป็นการขัดขวางกระบวน การพิจารณาและประพฤติตนไม่เรียบร้อย
.
ทั้งมีบุคคลแอบถ่ายภาพในห้องพิจารณาและนำไปเผยแพร่ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้การพิจารณาคดีวันที่ 29 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา จำเป็นต้องคัดกรองผู้ที่จะเข้าไปในห้องพิจารณาเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก รวมถึงเคร่งครัดในเรื่องเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดโดยให้ปิดการใช้งานและฝากไว้ตามจุดที่กำหนด แต่ได้อนุญาตให้ญาติของจำเลยที่ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเข้าฟังในห้องพิจารณาคดีได้
…
2. ต่อมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างรุนแรงอีกครั้ง วันที่ 7-8 เม.ย. 2564 จึงจำเป็นต้องกำหนดจำนวนคนที่จะเข้าไปในห้องพิจารณาคดี โดยให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นเกี่ยวข้องในคดีเท่านั้น ได้แก่ จำเลยทั้งหมด 22 คน พนักงานอัยการ ทีมทนายความจำเลย และตัวแทนสถานทูตต่างๆ มีจำนวนเกือบ 50 คน นอกจากนั้น ให้อยู่ในดุลพินิจของศาล เพื่อให้สามารถเว้นระยะห่างระหว่างกันได้ (Social Distancing) และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
…
3. ศาลได้จัดสถานที่ให้ญาติและผู้ที่จะเข้าฟังการพิจารณาเข้าไปรับฟังการถ่ายทอดภาพและเสียงด้วยระบบประชุมทางไกลทางจอภาพที่ห้องพิจารณาอีกห้องหนึ่งเพื่อให้ได้รับฟังการพิจารณาเช่นเดียวกับห้องพิจารณา
…
4. ศาลได้อนุญาตให้ญาติ มวลชน ผู้แทนสถานทูตต่างๆ และสื่อมวลชนเข้ารับฟังการพิจารณาได้ตลอดมา ให้สิทธิจำเลยที่จะพบทนายความและพูดคุยกับทนายความอย่างเต็มที่ และอนุญาตให้จำเลยพูดคุยกับบิดามารดาและญาติได้ หากขัดข้องอย่างไรแจ้งผู้พิพากษาได้ ซึ่งศาลอาญาถือว่าเป็นสิทธิที่สำคัญของฝ่ายจำเลยเสมอมาในทุกกรณี ไม่เคยเพิกเฉยตามที่มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด
——————————-