วันนี้ (23 พ.ค. 64) ที่ลานหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ กลุ่ม People Go Network จัดกิจกรรม เปิดไฟให้ดาว Finale-LightUp Freedom เรายังฝันอยู่ LightUp Freedom We have a Dream โดยกิจกรรมหลักในวันนี้คือการกล่าวปราศรัยในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ หัวข้อ “ฝันถึงวันโต้กลับของพลเมือง จากนายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ คนขับแท็กซี่ หนึ่งในพลเมืองโต้กลับ, หัวข้อ “ฝันถึงสิทธิมนุษยชนที่เลือนหาย” จากนางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย, หัวข้อ “ฝันว่าไม่มีเผด็จการ – 7 ปี ของความถดถอย ยังไม่สายสำหรับการกลับตัวใหม่” จาก ผศ.ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหัวข้อ “ฝันถึงการต่อสู้ของคนหนุ่มสาว ฝันถึงการเมืองใหม่ของทุกคน” จาก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
สำหรับ ’เปิดไฟให้ดาว’ เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจาก “เปิดไฟให้ดาว ส่องสว่างความยุติธรรม LightUp Justice” เมื่อวันที่ 10 พ.ค. กิจกรรมเริ่มต้นในเวลา 18.10 น. ด้วยการตีกลองของราษดรัม อีกทั้งยังมีการแสดง โดย นาฏ พระจันทร์เสี้ยวการละคร กระดาษเขียนความฝันที่เป็นการให้เขียนความฝันความในใจ การเล่นดนตรีจากสามัญชนเอ้ The Voice และน้ำ คีตาญชลี ซึ่งผู้จัดกิจกรรมได้แจกดาวกระดาษให้ผู้ร่วมงานใช้เป็นอุปกรณ์ร่วมกิจกรรมและนำกลับบ้านได้ รวมทั้งจัดที่นั่งโดยเว้นระยะห่าง และมีเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ผศ.ดร. บุญเลิศ เริ่มต้นด้วยการกล่าว คารวะประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่คู่ควรกับหลักการประชาธิปไตย พร้อมระบุว่า ท่านเหล่านั้นเป็นบุคคลที่กล้าหาญคู่ควรแก่การเคารพ ที่ผ่านมาขอแสดงความเสียใจกับการเคลื่อนไหวที่เป็นการล้มระบอบและกติการัฐธรรมนูญ ขอให้คนที่ตามกลุ่ม กปปส. ช่วยพิจารณาการทำงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและร่วมตั้งคำถามว่านี่คือผลพวงที่ดีหรือไม่
นอกจากนี้ ผศ.ดร. บุญเลิศยังกล่าวถึงการบริหารจัดการสถานการณ์ช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของรัฐบาลว่า ประชาชนสงสัยว่าทำไมรัฐบาลต้องผูกขาดวัคซีน และกีดกัน รพ.เอกชนด้วย จึงมองว่านี่หรือคือประสิทธิภาพของรัฐบาลก่อนการรัฐประหาร พร้อมยกตัวอย่างประเทศฟิลิปปินส์ ที่อยู่ภายใต้รัฐประหารและไม่ได้ฟื้นกลับคืนมา ทำให้มีการคอรัปชั่นในประเทศและถูกประชาชนขับไล่ จนมาฟื้นตัวช่วงหลังรัฐประหารและกรณีที่คนรุ่นใหม่กำลังพูดเรื่องย้ายประเทศ ก็เป็นปรากฏการที่เคยเกิดที่ฟิลิปปินส์ เพราะประชาชนหมดหวังกับประเทศตัวเอง ทำให้มีแรงงานถูกส่งไปทำงานนอกประเทศมากที่สุด สะท้อนภาพการสิ้นหวังของประเทศ
ผศ.ดร. บุญเลิศ กล่าวด้วยว่า “เราเป็นกลุ่มผู้รักประชาธิปไตย อยากเชิญชวนประชาชนไม่ว่าเคยมีเสื้อสีใด อดีตคือบทเรียนและอนาคตคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องสร้าง ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนต้องร่วมกันเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจ คสช.”
ด้าน นายรังสิมันต์ เผยว่า การออกมาเคลื่อนไหวของตนเองในอดีต ทำให้กลายเป็น ‘รังสิมันต์ โรม’ ในแบบที่ทุกคนเห็นวันนี้ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เห็นรอบตัวไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่เกิดขึ้นแล้ว ในสภาวะการมารวมตัวกันเชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกหดหู่ และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยการด่า เพราะอยู่ในช่วงการบริหารโควิดที่ล้มเหลวมาหลายต่อหลายครั้ง นี่จึงเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลนี้ พร้อมกล่าวด้วยว่า จากในอดีตจนตนเองมาเป็น ส.ส. ได้พยายามผลักดันกฎหมายใหม่ๆ หลายฉบับ เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ การยกเลิกเกณฑ์ทหาร แม้จะยังไม่สำเร็จแต่ตนเองและพรรคก้าวไกลก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ตอนนี้เรามาไกลกว่าที่คิด และโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว อีกทั้งยังกล่าวให้กำลังใจประชาชน “ให้ทุกคนระลึกว่าท่ามกลางความรู้สึกที่ท้อแท้หม่นหมอง พี่น้องอย่าท้อแท้และหมดหวัง คิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในไม่ช้า แล้วเราจะไปฉลองชัยชนะร่วมกัน”
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาติดตามให้กำลังใจนายรังสิมันต์ด้วย โดยเวลาประมาณ 20.40 น. มวลชนทุกคนร่วมชูดาวกระดาษ และส่องแสงไฟไปที่ดวงดาว ก่อนจะหันหน้าไปยังสื่อมวลชนที่ยืนอยู่บนสกายวอล์ค เพื่อแสดงสัญลักษณ์ พร้อมการระบุข้อความผ่านป้ายแสดงจุดยืนของคณะราษฎรที่เคยเสนอ 3 ข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ ได้แก่ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การปฏิรูปสถาบันฯ และปล่อยเพื่อนเรา ก่อนปิดท้ายด้วยการบรรเลงเพลงฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อโดยวงสามัญชน
• ข่าวย้อนหลัง : www.vihoknews.com
• กลุ่มเฟซบุ๊ก Vihoknews : https://m.facebook.com/vihoknews/
• LINE : @vihoknews
. LINE กลุ่ม : https://line.me/ti/g2/rqsZ-ysjK2GM62hT1O0DPw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
• Twitter : @vihoknews
• YouTube : https://youtube.com/c/FaretzCassicam
สนับสนุนสถานี : มูลนิธิโฮรี่ 561-7-08721-7 ธนาคารกรุงเทพ
ทีมงาน : 082-107-0396