เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #รัฐบาลระส่ำ ! อสส.สั่งฟ้อง ปธ.วิป คดีฟุตซอล

#รัฐบาลระส่ำ ! อสส.สั่งฟ้อง ปธ.วิป คดีฟุตซอล

4 June 2021
545   0

    รายงานความคืบหน้ากรณีคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการสูงสุด (อสส.) และฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ คดีกล่าวหานายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กับพวก ทุจริตการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล รวม 7 สำนวน

โดยก่อนหน้านี้ อสส. มีความเห็นควรสั่งฟ้องสำนวนคดีฟุตซอลในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา ที่กล่าวหานายวิรัช กับพวก ไปแล้วเป็นสำนวนแรก ส่วนอีก 6 สำนวนที่เหลือ คณะทำงานร่วมฯ ได้ส่งเรื่องไปยัง อสส. เพื่อขอรวมกับสำนวนแรก

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังคณะทำงานร่วมฯมีข้อสรุป และส่งเรื่องให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณา ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2564 นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อสส. ได้พิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ใน 7 สำนวนคดีฟุตซอลดังกล่าวแล้ว มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายวิรัช กับพวก รวมทั้งสิ้น 84 ราย โดยเป็นระดับผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา และระดับผู้อำนวยการโรงเรียนของรัฐและเอกชน

ขั้นตอนหลังจากนี้ อสส. จะแจ้งเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมกับแจ้งไปยังนายวิรัช และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 84 ราย เพื่อนำตัวมาฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป โดยคาดว่าจะนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯได้ภายในเดือน มิ.ย. 2564

00:00/00:46THAILAND MARKET FOOD

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายวิรัช กับพวกนั้น ต่อมานายวิรัช มอบหมายทนายความผู้มีอำนาจฟ้องคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ คดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล พื้นที่การศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา ในประเด็น ‘ใบโควตา’ กับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ต่อมานายเมธี ครองแก้ว อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธาน และกรรมการ ป.ป.ช. ให้ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยคณะอนุกรรมการไต่สวนฯชุดดังกล่าว

ขณะที่พฤติการณ์ของนายวิรัช กับพวกที่ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าว ตามการแถลงและสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ปรากฏข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย และเป็นตัวการร่วมกันในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ ตามบทบาทตามหน้าที่และอำนาจที่แต่ละคนมี และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการกระทำความผิด โดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนร่วมดำเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ โดยทุจริต ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่น รวมจำนวน 18 จังหวัด วงเงินประมาณ 4,459,420,000 บาท ใน 2 โครงการหลัก

หนึ่งในนั้นคือ โครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล รวมถึงมีการวางแผนในการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายประการ เพื่อให้กลุ่มเอกชนที่เป็นพรรคพวกของตนเองได้เข้าเป็นคู่สัญญา และการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอลไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงตรงตามวัตถุประสงค์

ในช่วงที่มีการจัดทำงบประมาณปีงบประมาณ 2555 นายวิรัช รัตนเศรษฐ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในขณะนั้น และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลงขณะนั้น (ปัจจุบันเป็น ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ) ซึ่งเป็นน้องสาวนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ได้สั่งการให้พวกของตน เข้าไปประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 เพื่อจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลให้ โดยเข้าไปครอบงำ บงการการใช้จ่ายงบประมาณในวงเงินดังกล่าวโดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย

อันเป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 168 ซึ่งบัญญัติว่า “…ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือของคณะกรรมาธิการ การเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้…