เมื่อเวลา 13.00 น.ที่อาคารัฐสภา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ พร้อมนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาคดีการตายน้องชมพู่ และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ยื่นหนังสือร้องเรียนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
นายสิระ กล่าวว่า ลุงพลมายื่นหนังสือเพราะติดใจศาลเรื่องหมายจับเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสำนวนคดี ตอนนี้ยังไม่รับเรื่องพิจารณา แต่จะนำเข้าที่ประชุม กมธ.กฎหมายฯ ภายในสัปดาห์หน้าว่า จะรับเรื่องไว้ไหม
“ผมจับพฤติกรรม ผบ.ตร.ขณะลงพื้นที่บ้านกกกอกว่า เคยประกาศจะจับผู้ร้ายให้ได้ภายใน 1 ปี และก็ประจวบเหมาะพอดีว่า การออกหมายจับครั้งนี้ครบ 1 ปีพอดี จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นความบังเอิญ หรือมีการกดดันเจ้าหน้าที่หรือไม่”
นายสิระ ระบุว่า วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายนนี้ ตนเองจะลงพื้นที่บ้านกกกอก เพื่อพบแม่น้องชมพู่ และเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามว่า ถูกกดดันในการทำคดีหรือไม่ พร้อมฝากถึงแม่น้องชมพู่ว่า อย่าให้ใครมาปิดช่องทาง และโอกาสจะได้รับความช่วยเหลือด้านยุติธรรม แต่มีคนมาเบรกว่าอย่าไป ซึ่งนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ระบุว่า ต้องขออนุญาตก่อน ผมตกใจว่า นายอัจฉริยะ เป็นใคร
ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กล่าวว่า ต้องการยื่นตรวจสอบ ผบ.ตร.เรื่องการออกหมายจับลุงพล ที่ไม่เคยมีพฤติกรรมหลบหนี และหลังออกหมายจับ ผู้ต้องหาได้ไปมอบตัว แต่กลับไม่ยอมรับมอบตัว และทำบันทึกจับกุมแทน เพื่อทำให้ลุงพล เกิดความอับอาย ประกอบกับแม่น้องชมพู่ บอกในศาลว่า คำร้องทั้งหมด ตำรวจเป็นคนแนะนำ ทำให้เห็นว่า คดีนี้ลุงพลไม่ได้รับความเป็นธรรม
ส่วนกรณีแม่น้องชมพู่ แต่งตั้งทนายความ ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายอัจฉริยะนั้น ไม่ได้กังวลอะไร เพราะนายอัจฉริยะฟ้องตนมาแล้วร่วม 10 คดี แต่ไม่มีคดีไหนเลยที่ชนะ
ด้านลุงพล กล่าว่า ต้องการความเสมอภาคในคดีนี้ และตรงไปตรงมา ซึ่งตนเองเคารพการตัดสินของศาล และไม่มีทางที่จะหนีไปไหน
หลังจากยื่นหนังสือเสร็จ “ลุงพล” ได้นำผ้าทอมือของมุกดาหาร ผูกเอวให้นายสิระ ที่พูดแบบติดตลกว่า “ของชิ้นนี้ไม่เกิน 3,000 บาทใช่หรือไม่”