23 มิ.ย. 19.00 น.เฟซบุ๊กไลฟ์ไล่ประยุทธ์ 24มิย.สันติวิธี
ผู้ยิ่งใหญ่สั่งการให้เร่งรัดคดี ก่อนชุมนุม 24 มิ.ย.นี้
“จตุพร” ฉะ รัฐบาลชุดนี้ใจดำ ลุแก่อำนาจแจ้งความดำเนินคดีเป็นรายวัน อุบ จุดนัดพบ24มิ.ย. แต่เป้าหมายคือทำเนียบรัฐบาล ยันสันติวิธี เผย 23 มิ.ย. 19.00 น. เฟซบุ๊กไลฟ์หัวข้อประยุทธ์ออกไป ด้าน สมชาย หอมละออ ทีมทนายความ ระบุ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จะยื่นคำให้การในรายละเอียดเป็นหนังสือ ชี้ การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามชุมนุม เป็นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ
วันที่ 20 มิถุนายน 2564 ที่ สน.ชนะสงคราม แกนนำไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาความผิด ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ฉบับที่ 5 กรณี ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือการทำกิจกรรมที่มีการรวมพลในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรค covid-19 และฝ่าฝืนข้อกำหนดฉบับที่ 15 พ.ศ.2563 ที่ออกมาโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” กรณีจัดเวทีอภิปรายสาธารณะในวันที่ 4-7 เมษายนที่ผ่านมา ณ สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม
ผู้ที่ถูกดำเนินคดีมีจำนวน 23 คน โดนตั้งข้อหาเป็นรายคดี จำนวน 38 คดี แบ่งเป็นรายวัน ประกอบด้วยวันที่ 4 เมษายน จำนวน 18 คน วันที่ 5 เมษายน จำนวน 14 คน และวันที่ 7 เมษายน ที่เป็นวันแถลงประกาศยุติเวทีเนื่องจากโควิดระบาดจำนวน 6 คน
ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ประกอบ 1.นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ 2.นายจตุพร พรหมพันธ์ 3.นายการุณ ใสงาม 4.นายวีระ สมความคิด 5.นายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) 6.นางพะเยาว์ อัคฮาด 7.นายณัทพัช อัคฮาด 8.นายวสันต์ สิทธิเขตต์ 9.นายเมธา มาสขาว 10.นายศักดิ์ณรงค์ มงคล
11.นายสุวิช สุมานนท์ 12.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง 13.นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง 14.นายไทกร พลสุวรรณ 15.นายสมบูรณ์ ทองบุราณ 16.นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ 17.น.ส.วรรณพร ฉิมบรรจง 18.พ.ท.หญิง กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 19.นายเศวต ทินกูล 20.ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี 21.นายธนเดช ศรีสงคราม 22.นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา และ 23.นายจอมพล รุ่งเรืองชูเลิศ
โดยในเวลา 10.00 น.นายอดุลย์เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชนพฤษภา 35, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.,นายไทกร พลสุวรรณ เลขาธิการแนวร่วมอีสานกู้ชาติ,นายเมธา มาสขาวเลขาธิการ ครป., พร้อมคณะผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 14 คน จากทั้งหมด 23 พร้อมทนายความเดินทางมาถึง สน.ชนะสงคราม ส่วนจำนวนที่เหลือจำนวน 9 คนไม่ได้มาตามหมายเรียก อาทิ นายวีระ สมความคิด, นายสมบูรณ์ ทองบุราณ,
นายอดุลย์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ตนไม่เคยได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าตำรวจมากว่า 50 ปีแล้ว วันนี้ก็รู้สึกสนุกดี ก็พาคณะมาทั้งหมด
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า ได้รับการแจ้งจากพนักงานสอบสวนให้มารายงานตัว ในความเป็นจริงทางทีมทนายความได้มีการนัดหมายในวันที่ 29 กรกฎาคม แต่เนื่องจากมีบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครได้สั่งการให้มีการเร่งรัดคดี โดยให้มารายงานตัวก่อนการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายนนี้
ดังนั้นสิ่งที่เราบอกว่าต้องการปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพราะผู้มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงในชั้นพนักงานสอบสวน หลายกรณีก็เกิดขึ้นตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่างๆ
“คดีนี้พวกผมทุกคนไม่มีอะไรจะไหวหวั่น ผมต้องโทษคดีประหารชีวิตแล้ว ฉะนั้นกรณีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งความจริงรัฐบาลชุดนี้ใจดำมาก เพราะพวกเราจัดที่สวนสันติพรข้างสน.ชนะสงคราม สน.ชนะสงครามก็ขอใช้พื้นที่คุณอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ในฐานะผู้จัดผู้ขออนุญาตเป็นประธานกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กระดูกของลูกก็อยู่ที่นี่ พร้อมกับบรรดาวีรชน แต่การลุแก่อำนาจไม่รู้อะไรควรอะไรไม่ควรก็ไปแจ้งความดำเนินคดีเป็นรายวัน”
พร้อมยืนยันว่า พวกตนในฐานะกลุ่มสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ที่นัดหมายกันไว้ในวันที่ 24 มิถุนายน เวลา 16.00 น. จะไปทำเนียบรัฐบาล แม้จะต้องมีตู้คอนเทรนเนอร์เต็มไปหมด แต่ขอให้ประชาชนรอฟังจุดนัดหมาย แต่เป้าหมายคือทำเนียบรัฐบาล
“คนขี้ขลาดตาขาวมักจะลงมือก่อนคือจะตั้งตู้คอนเทรนเนอร์รอบ ไม่ให้เข้าไป ฉะนั้นจุดนัดพบอาจไม่ใช่ทำเนียบรัฐบาลแต่เป้าหมายคือทำเนียบรัฐบาล”
นายจตุพร ยังเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกคนว่า ในวันที่ 23 มิถุนายน เวลา 19.00 น. ให้เฟซบุ๊กไลฟ์หรือไลฟ์ในสื่อโซเชียลของตัวเองจัดรายการในหัวข้อประยุทธ์ออกไป ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเดือดร้อนอะไรบ้าง ส่วนในวันที่ 24 นี้ที่จะไปทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่าหากรัฐบาลฉลาด ไม่โง่ ไม่บ้าอำนาจต้องปล่อยให้ประชาชนไปที่ทำเนียบรัฐบาล
“ผมยืนยันว่าจะไม่บุกเข้าไปที่ข้างในทำเนียบรัฐบาลโดยเด็ดขาด จะไปด้วยมิตรไมตรี จะพูดด้วยท่วงทำนองมุธรสวาจา จะได้อธิบายว่าทำไมต้องมาขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”
ทั้งนี้ยังยืนยันว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น หากความรุนแรงเกิดขึ้นคือเกิดได้อย่างเดียวมาจากทางรัฐ ทางพวกตนจะใช้แนวทางสันติวิธีเจรจากันทุกขั้นตอน จึงอยากส่งเสียงไปถึงพลเอกประยุทธ์ว่าปี 2553 ก็เป็นบทเรียนกับท่านมากมายแล้ว ให้เจราจากันด้วยสันติวิธีเพราะเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน ความเห็นแตกต่างกันไม่จำเป็นต้องฆ่ากัน
ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกว่า 4 ชั่วโมง นายสมชาย หอมละออ ทีมทนายความพร้อมผู้ถูกกล่าวหา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเดินทางกลับว่า การแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ไม่ควรนำมาใช้กับการชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หรือการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพราะตามรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับรองสิทธิในการชุมนุม รวมถึงการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
นอกจากนั้นการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามชุมนุม โดยอ้างว่า อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของ covid 19นั้น กลายเป็นเรื่องของการใช้กฎหมายที่มีลักษณะของการเลือกปฏิบัติ หรือใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ในทางการเมือง ซึ่งน่าจะผิดจากเจตนารมณ์ของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเรื่องนี้ผู้ถูกกล่าวหาจะต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุด ทุกขั้นตอน ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและในชั้นพนักงานอัยการ รวมถึงชั้นศาลหากมีการฟ้องคดี
อย่างไรก็ตามผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดที่มาในวันนี้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา รวมทั้งได้แจ้งพนักงานสอบสวนว่าจะยื่นคำให้การในรายละเอียดเป็นหนังสือ พร้อมทั้งพยานหลักฐานต่างๆและรายชื่อ พยานบุคคล เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ตนในฐานะทนายความ มีความเชื่อมั่นว่า การใช้กฎหมายในลักษณะของการกลั่นแกล้งแบบนี้รวมทั้ง เรื่องการแทรกแซง การทำงานของพนักงานสอบสวนนั้น พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการน่าจะมีความเห็นไม่ฟ้องและมีคำสั่งไม่ฟ้อง
แต่อย่างไรก็ตาม เรายังมีความเชื่อมั่นว่าหากพนักงานอัยการยังฟ้องผู้ถูกกล่าวหาชุดนี้ต่อศาล เราก็เชื่อมั่นว่าจะได้รับความยุติธรรมต่อศาล โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้