นายกฯชูกำปั้นไม่น้อยใจไดคะแนนน้อย
จับตาเอฟเฟคท์หลังจบศึกซักฟอก
ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่พรรคเล็กลงมติไม่ไว้วางใจ’บิ๊กตู่’ ในการโหวตเสียงญัตติซักฟอกรัฐบาล นอกเหนือจากอันวาร์ สาและ ขาประจำจากปชป.
เพราะส.ส.พรรคเล็ก 4-5 คนที่ว่า ต่างอยู่ในกลุ่มไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างมีความพยายามเจรจาหาเสียงหนุนคว่ำนายกฯกลางสภาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
แม้กระทั่งถึงช่วงบ่ายๆวันอภิปรายวันสุดท้าย ก็อยู่ในกลุ่ม 4+5 คน เมื่อคนแดนไกลทุ่มสุดตัวถึงขี้นเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการให้
ก่อนที่พล.อ.ประวิตรจะโชว์พาว(เวอร์)สยบความขัดแย้ง และเป่ากระหม่อมผู้กองธรรมมนัส ให้ยอมยกมือไหว้ขอโทษ’บิ๊กตู่’ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ
คลี่คลายทั้งสถานการณ์อึมครึมในพรรค และสะท้อนความเหนียวแน่นแบบ’เลือดข้นกว่าน้ำ’ของ 3 ป. กระทั่งนายกฯยิ้มออก
แต่กระนั้น เรื่องคะแนนโหวตไว้วางใจนายกฯซึ่งความจริงน่าจะสูงกว่าใครเพื่อนตามข่าววงในที่ระบุว่า ผู้กองธรรมมนัสเป็นคนย้ำเองว่าคะแนน’บิ๊กตู่’ต้องเป็นที่ 1 ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และมีผลต่อความรู้สึกของทั้ง’บิ๊กตู่’และกองเขียร์ อย่างปฏิเสธไม่ได้
แม้เจ้าตัวจะชูกำปั้นสู้ต่อ และไม่น้อยใจในคะแนนที่ได้
เรื่องนี้ หากมองในเชิงบวกว่า เป็นคนแรกที่สภาฯลงมติโหวตลงคะแนนเสียง จึงอาจมีส.ส.เดินทางไปไม่ทัน หรือถึงสภาแล้ว แต่เข้าห้องไม่ทันโหวต ก็พอรับฟังได้
ทั้งที่ความจริงส.ส.ต้องเผื่อเวลา ไม่ใช่เรื่อยๆไปเรียงๆหรือเดินลอยชายจนโหวตไม่ทัน
เพราะต้องตระหนักว่า ศึกซักฟอกหนนี้ ต่างจากครั้งก่อนๆ โดยเฉพาะนายกฯที่กำลังเผชิญกับแรงท้าทาย จะโดนโหวตคว่ำคาห้องประชุมสภาฯ
ตามแผนการณ์ของคนแดนไกล วางแผนร่วมกับอดีตลูกน้องเก่าที่กำลังเติบใหญ่ และหวังจะขยับเก้าอี้ให้ใหญ่ขึ้น โดยกำลังทรัพย์และตำแหน่งทางการเมืองเป็นตัวล่อ
ซึ่งผลที่ออกมา แม้จะคว่ำไม่สำเร็จ แต่ก็อาจคุยโวได้ หรืออาจสะใจกับคะแนนไว้วางใจที่ได้รองบ๊วย มากกว่านายสุชาติ รมว.แรงงานแค่เสียงเดียว
ยังไม่กระจ่างชัดว่า จะมีเอฟเฟคท์ตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะผู้กองธรรมมนัส ที่ถูกโฟกัสเป็นพิเศษ อาจขยับขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับเก้าอี้และเป็นคนสำคัญในพปชร.สำหรับดูแลส.ส.และสมาชิกพรรคสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
หรืออาจกระเด็นกระดอนหายไปจากตำแหน่งหรือสาระบบ รองรับการจัดโครงสร้างใหม่ ในพรรคที่ยังเน้นบารมีและ 3 ป.เป็นจุดขาย
อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นครับ
ประจักษ์ มะวงศ์สา