‘ธรรมมนัส’เกินกลืนเลือด
ไม่มีที่ว่างให้’คนแพ้’
ไม่มีที่ว่างให้คนแพ้จริงๆ ร.อ.ธรรมมนัส ที่ตกเป็นเป้ากลางกระแสความเคลื่อนไหว’คว่ำบิ๊กตู่’กลางสภา ยื่นลาออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯ แถมหนีบ’บิ๊กอาย’นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 1 ในแก๊ง 4 ช. ในฐานะผู้ร่วมก่อการออกไปจากตำแหน่งรมช.แรงงานด้วย
หลังประชุมครม.นัด’เห็นหน้าค่าตา'(แต่เป็นนัดที่ผู้ร่วมไม่ยอมมองหน้าตากัน) นัดแรก หลังว่างเว้นหนีโควิด 19 หลายสัปดาห์ เพียงแค่วันเดียว
กลืนเลือดอย่างเดียวคงไม่พอ สำหรับชายชาติทหารที่คงท่องคติ ”ฆ่าได้หยามไม่ได้’ ร.อ.ธรรมมนัสยอมรับในกาคแถลงที่รัฐสภาว่า เครียด นอนไม่หลับหลายคืน เพราะเรื่องไม่จบ สุดท้ายจึงจบลงด้วยการยื่นใบลาออก
“เมื่อพูดกันด้วยเหตุด้วยผลแล้วไม่เป็นประโยชน์ วิธีดีที่สุดคือตัดสินใจด้วยตัวเอง” คือคำพูดประโยคหนึ่งของผู้กองธรรมมนัส ระหว่างและตอบคำถามสื่อ ถือว่ามีนัยสำคัญยิ่ง
เช่นเดียวกับประโยคที่ว่า “ผมต้องการทำการเมืองให้เข้มแข็ง เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่มารองรับ หรือทำประโยชน์เพื่อคนบางกลุ่ม”
เป็นการพุ่งเป้าซัดเต็มๆไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ คือไหว้ขอโทษก็แล้ว สะท้อนความเห็นส.ส.ต่อมท.1แล้ว กลับตัวกลับใจหวังทำงานต่ออย่างเต็มที่ก็แล้ว ยังไม่ยอมยกโทษหรือให้อภัย หนำซ้ำยังเล่นบทตีหน้าขรึม เมิน ไม่รับไหวั จงใจให้สถานการณ์เคร่งเครียด ในวันประชุมครม.นัดหลังสุด ลักษณะ’แค้นฝังหุ่น’ ทั้งที่ผ่านๆมา ก็ทำเพื่อรัฐบาลและพปชร.มานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งเลือกตั้งซ่อม และการดูแลคอยแจกกล้วยลิง
ในมุมของร.อ.ธรรมมนัส สิ่งที่ทำมาพลันอันตรธานหายไปสิ้น แทนที่จะแสเงความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ถือโทษโกรธเคือง จะทำให้ได้ใจลูกต้องไปเต็มๆ แต่กลับตรงข้าม สาเหตุสำคัญประการเดียวคืออำนาจข้าใครอย่าแตะ
เมื่อประกาศชัดว่าคงเดินไปด้วยกันไม่ได้ ทำให้สามารถฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า ร.อ.ธรรมมนัส น่าจะทิ้งเก้าอี้เลขาธิการพรรคพปชร.ในอีกไม่นานนี้ด้วย และเส้นทางการเมืองต่อไป คงจะเลือกพรรคการเมืองอื่น ซึ่งคงจะหาไม่อยาก เพราะคุณสมบัติใจถึง-พึ่งได้แบบนี้ ใครๆก็อยากได้ รวมทั้งพรรคลูกพี่เก่า ที่เตรียมเปิดศึก’เช็กบิล’ครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ขณะที่พปชร.และรัฐบาล ก็ต้องมีการขยับและจัดทัพครั้งใหญ่เช่นกัน ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง 2 เก้าอี้ เชื่อว่าจะมีฝุนคละคลุ้งอีกรอบ เพราะอาจเป็นรอบสุดท้ายแล้ว ใครไม่อยากตกขบวนรอเที่ยวหน้า ก็ต้องวิ่งกันเต็มที่ เช่นเดียวกับปรับเปลี่ยนโครงสร้างถายในพปชร.โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรค ซึ่งก็มีหลายคนหลายกลุ่มจ้องตาเป็นมันอยู่ บ้านที่ทำการมูลนิธิป่ารอยต่อฯ คงจะกลับมาคึกคักอีกคำรบ
ถือเป็นวิถึทางการเมือง ที่มีผู้แพ้ ผู้ชนะ ผู้มาใหม่และผู้จากไป หมุนเวียนสลับกันไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนประชาชนก็ได้แค่ตั้งตารอคอยต่อไป
ประจักษ์ มะวงศ์สา