ข่าวประจำวัน » เลว..ไม่มีที่ติ !!!! แฉวิธีทนายใช้โกงเงิน “น้องบีม” เด็กหญิงพิการ จนทำให้เงินกว่า 4 ล้านของด.ญ.หายไปจนหมด!!!???

เลว..ไม่มีที่ติ !!!! แฉวิธีทนายใช้โกงเงิน “น้องบีม” เด็กหญิงพิการ จนทำให้เงินกว่า 4 ล้านของด.ญ.หายไปจนหมด!!!???

1 July 2017
456   0

จากกรณีโลกโซเชียลฯได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตของ ด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือ น้องบีม อายุ 14 ปี เด็กหญิงพิการที่ร้องประสานเสียงคอรัสเพลง Que Sera Sera (เคว เซรา เซรา) ในโฆษณาดังของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ว่า ครอบครัวประสบอุบัติเหตุ พ่อเสียชีวิต แม่บาดเจ็บสาหัส ส่วนตัวเองต้องพิการขาทั้งสองข้าง และได้ต่อสู้คดีกับคู่กรณีจนชนะได้เงิน 5 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าถูกทนายความโกงเงินไปกว่า 4 ล้าน เนื่องจากถูกหลอกให้เซ็นมอบอำนาจ

ต่อมา น้องบีม พร้มอคุณเเม่ ได้เดินทางเข้าพบ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผู้บังคับการภูธรจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อประชุมช่วยเหลือ 2 แม่ลูกเเล้ว ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้สั่งการให้ผู้บังคับการภูธรจังหวัดนนทบุรี ติดตามความคืบหน้าคดี โดยทางจังหวัดเองได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นเเล้ว และจากการตรวจสอบ พบว่าทนายคนดังกล่าว เป็นทนายจริง ซึ่งจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในวันพรุ่งนี้ หากพบว่าผิดจริงอาจถึงขั้นถอนใบอนุญาต

ขณะที่ นายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ ควบคุมดูแลสำนักงานมรรยาททนายความ ระบุ ผู้เสียหายได้มีการเดินทางมาที่สภาทนายความที่ตั้งใหม่เมื่อช่วงต้นปีที่มาจริง แต่ไม่เคยมีการเข้ามาร้องทุกข์ที่สภาทนายความแต่อย่างใด ส่วนโทษที่สามารถดำเนินการได้ ทางสภาทนายความสามารถทำได้เพียงโทษทางวินัย และโทษสูงสุดคือการลบชื่อออกจากระบบทนายความ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้นิ่งเฉยและไม่เคยช่วยเหลือพวกเดียวกัน เนื่องจากเป็นวิชาชีพที่ต้องทำทุกสิ่งบนพื้นที่ของความยุติธรรม นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังยังพบว่าในส่วนตัวของทนายความคนดังกล่าว ยังเคยถูกร้องมรรยาททนายความมาแล้วในช่วงปี 2550 และมีการลงโทษไปแล้วตามขั้นตอน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้เนื่องจากเป็นความลับทางวิชาชีพ

ล่าสุด นายเกรียงไกร อิทธิปัญญานนท์ ทนายความตัวแทนบริษัทเจ้าของรถ18ล้อ หรือ บริษัท น.นน อินเตอร์เฟรท (ประเทศไทย) จำกัด คู่กรณีของครอบครัวน้องบีม เปิดเผยว่า หลังจากศาลฎีกามีคำสั่งตัดสินให้มีการชำระเยียวยาประมาณ 4.9 ล้านบาท จากนั้นทาง บริษัท น.นน อินเตอร์เฟรท (ประเทศไทย) จำกัด ได้พยายามติดต่อกับ แม่ของน้องบีมโดยตรง เเต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากในสำนวนนั้นไม่ได้ระบุเบอร์โทรศัพท์เเม่น้องบีมเอาไว้ มีเพียงเบอร์โทรศัพท์ของทนายความ นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ จากนั้นก็มีการเจรจาเยียวยาจ่ายเงินให้ผู้เสียหาย ทีเเรกมีการตกลงจ่าย 3 ล้านบาท

เเต่นายพิสิษฐ์ อ้างขอ 4ล้าน โดยอ้างว่าผู้เสียหายเป็นถึงคนพิการ จะจ่ายเเค่ 3 ล้านได้ยังไง ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นครอบครัวน้องบีมไม่รู้เรื่อง มีเพียงทนายอ้างกับบริษัทเอง ส่วนทางบริษัทเองก็ตอบตกลงโดยการผ่อนชำระ เป็นงวดๆไป ในงวดเเรกชำระไป สองเเสนห้าหมื่นบาท เเต่ครอบครัวน้องบีม ได้รับเเค่ 4 หมื่นบาทเท่านั้น จากนั้นจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีเดือนละ1แสนบาท ประมาณ30งวด ซึ่งนายพิสิษฐ์มีการร้องขอให้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง อ้างว่าทางผู้เสียหายอยู่ต่างจังหวัด ติดต่อยาก ตนจะรับผิดชอบชำระให้กับทางผู้เสียหายเอง

จากนั้นทางบริษัทรถ18ล้อก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ จึงขอให้นายพิสิษฐ์ นำหนังสือมอบอำนาจของครอบครัวน้องบีมมาให้ทางบริษัท นายพิสิษฐ์ ก็ยินดีนำมามอบให้ เมื่อทางบริษัทรถ 18 ล้อเห็นหนังสือมอบอำนาจตามกฏหมายก็เลยจำเป็นต้องโอนเงินเข้าบัชชีนายพิสิษฐ์ จากนั้นยังไม่พอ นายพิสิษฐ์ ขอเปลี่ยนเเปลงจากการโอนเงินเป็นงวดๆ ขอเปลี่ยนเป็นสั่งจ่ายเช็คล่วงหน้ากว่า 30 ใบ และนายพิสิษฐ์ยังมาขอเจรจานำเช็คมาแลกเป็นเงินสด อ้างต้องนำเงินไปชำระค่ารักษาพยาบาลให้กับน้องบีม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม นายเกรียงไกรยืนยันว่า ทางบริษัทได้ชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดแล้ว เมื่อหลังจากทราบเรื่องว่าทนายพิสิษฐ์ได้มีการโกงเงินน้องบีมแล้ว ตนและบริษัทพร้อมช่วยเหลือในเรื่องการเอาผิดทนายพิสิษฐ์ด้วย