EP.4 จุดจบของอาบอบนวด
.
ทุกๆ ธุรกิจมีขึ้นมีลง ตามไลฟ์ ไซเคิล (Life Cycle) เมื่อถึงจุดสูงสุด เส้นกราฟก็หันหัวทิ่มลงไปตามกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ไม่สามารถต้านทานได้
.
ธุรกิจอาบอบนวดก็หนีไม่พ้นเช่นกัน ในฐานะที่ผมอยู่ในยุครุ่งเรืองมาตลอด เป็นเจ้าพ่ออาบอบนวด พอสรุปยุคตกตำ่หลังโควิดได้ดังนี้
.
1. เชียร์แขก มาม่าซัง จะหายไปในยุคสมัยของเด็กรุ่นใหม่ ที่ธุรกิจเพศพาณิชย์ไม่ต้องการ “คนกลาง” อีกต่อไป เฉกเช่นธุรกิจออนไลน์ ผู้ซื้อพบผู้ขายโดยตรง
.
เดี๋ยวนี้บรรดาเด็กขายบริการ เช่าห้องตามอพาร์ทเม้นต์ไว้รอรับแขก ติดต่อผ่านไลน์ ผ่านแชท ผ่านเว็บไซต์ซื้อขายกลางเหมือน Shopee Lazada
.
2. ไม่มีใครอยากเสียค่าหัวคิว โน่นนี่นั่นของบรรดาเชียร์แขก มาม่าซัง ที่ทำตัวเป็น “นิ้วทองคำ” ชี้ใครก็ได้งาน เด็กใครเด็กมัน
.
ถึงวันเกิดพี่ๆ ก็ต้องจัดเงินใส่ซอง หรือทองต้องหนัก 1 บาท ไม่งั้นเน่าแน่ หรือไม่ก็ต้องให้ค่าเรียนลูก ต่อเติมหลังบ้าน สารพัดมาบรรยายให้ฟังทุกวี่ทุกวัน
.
ที่สำคัญ มันหมดยุคนั่งตู้ มือถือและไลน์ในยุคนี้มันง่าย สาวไทยจึงอยากเป็น “ไซด์ไลน์” กันหมด
.
หากมีแขกก็โทรมาเรียก ไลน์มาบอก หากไม่มีแขกใครจะไปนั่งรอให้เสียเวลา เสียความรู้สึก
.
3. เด็กสามารถเลือกแขกได้ ไม่ไปก็ได้ หรือทุ่มสุดตัวหากแขกโปรไฟล์ดี ดูได้ที่ “อินสตาแกรม”
.
พ่อรวย ขับรถซุปเปอร์คาร์ เที่ยวเมืองนอก ใส่ของแบรนด์เนม
.
อย่างนี้ น้องต้องทำตัวหรูถึงจะดูเหมาะสม เด็กก็ต้อง “อัพเกรด” เหมือนกัน
.
แต่ก่อนตอนทำอาบอบนวด เรียกกัน “อีเปิ้ล” แต่พอได้เป็นไซด์ไลน์ ใช้ชื่อจัดตั้งกลายเป็น “แอ๊ปเปิ้ล”
.
อาบอบนวด จึงกลายเป็นธุรกิจโบราณ ทั้งเด็ก ทั้งแขก เริ่มหายากขึ้นทุกวัน เพราะมีเทคโนโลยีการสื่อสาร ไม่ต้องเข้าไปสถานที่อโคจรให้ใครเขานินทาว่า “บ้ากาม”
.
ยิ่งที ยิ่งปิดไปคนละที่สองที่
.
เมื่อเด็กกลายเป็น “ผู้เลือก” แทนที่แต่ก่อนเคยถูก “แขกเลือก” โลกของอาบอบนวดจึงกลับตาลปัตรไปตามกระแสเชี่ยวกรากของยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค
.
แถมสถานบริการอาบอบนวดต้องจ่าย “ค่าเก๋าเจี๊ยะ” ตั้งแต่ล่างยันบน ห้ามขาดตกบกพร่อง หากมีนโยบายมาก็ต้องจับอีก และข้อหาก็หนักไม่ใช่ล้อเล่น “ค้ามนุษย์” แล้วตามด้วย “ฟอกเงิน” เป็นสูตรตายตัว
.
วันนี้จึงได้เห็นอาบอบนวดปิดกันเป็นทิวแถว
.
อีกไม่นาน เด็กเจน Z คงได้แต่ย้อนอ่านเรื่องเล่าของผมว่า “อ้อ อาบอบนวดเป็นแบบนี้หรือ?”
.
เป็นแค่ภาพประวัติศาสตร์ เหมือนคนรุ่นเก่าที่ได้เห็น “โคมแดง โคมเขียว” แขวนไว้หน้าซ่อง เมื่อเกือบ 60 ปีก่อน แถวโรงน้ำชาย่านเยาวราช แล้วพัฒนามาถึงยุค “บางขุนพรหม” จนมาถึงยุค “สุทธิสาร”
.
อนิจจัง สังขารไม่เที่ยง ยุบหนอ พองหนอ