วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.25 น. ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายว่า การเปิดการประชุมวันนี้มาจากปัญหาการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาและประชาชนจำนวนมาก ที่เรียกว่า คณะราษฎร 2563 และมีการชุมนุมมาอย่างต่อเนื่อง มีการเรียกร้อง 3 ข้อสำคัญ คือ 1. นายกรัฐมนตรีต้องลาออก 2. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3. การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ในส่วนของสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทย มีการปกครองด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์มา 781 ปี มีพระมหากษัตริย์ทั้งหมด 53 พระองค์ แต่ละพระองค์ได้ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติและประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง อย่างตระกูลตนมาจากเมืองจีน ตั้งแต่รัชกาลที่ ๖ มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารจนปัจจุบัน 6 รุ่นแล้ว ดังนั้น ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ตนขอไม่เห็นด้วย แต่ขอเปลี่ยนเป็นให้สร้างความปรองดองสมานฉันท์ คือเป็นการสืบสานต่อยอด การครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอานาประชาราษฎร์ หรือพัฒนาบางจุดให้ทันสมัยให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ช่วงเปลี่ยนผ่านจะดีกว่า เพื่อลดความขัดแย้ง
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนเห็นด้วย และต้องการให้ทำอย่างเร่งด่วน เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการสืบทอดอำนาจ ผ่าน ส.ว.เลือกนายกฯ ถ้าแก้ได้ความขัดแย้งในบ้านเมืองจะลดลง และข้อเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก สามารถทำได้หรือไม่นั้น สามารถทำได้ เพราะขึ้นอยู่กับนายกฯ สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วยความสงบเรียบร้อยปรองดอง ถ้าสามารถทำได้ นายกฯ ก็อยู่ต่อได้ แต่ถ้านายกฯ อยู่ต่อแล้วเกิดความวุ่นวาย เกิดความไม่มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่านนายกฯ ต้องตัดสินใจว่าจะให้ประเทศนี้เดินหน้าต่อไปอย่างไร ฉะนั้น มีแค่ 2 ทางเลือกที่เหลือคือ จะลาออก หรือยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน