เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากวัฒนธรรม ความเชื่อ ความเป็นอิสระ การไม่ยอมรับหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง ความไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน การผ่อนคลายสภาวะที่ถูกควบคุม การร่วมกิจกรรมสันทนาการโดยไม่มีการควบคุม ภูมิอากาศ อุณหภูมิลดลงทำให้คนอยู่ในอาคาร อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และไม่สวมหน้ากาก โดยการฉีดวัคซีนนานแล้ว ภูมิคุ้มกันเริ่มตก ทำให้ต้องมีการฉีดกระตุ้นเข็มถัดไป
ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งนี้ จากข้อมูลการกลายพันธุ์ของไวรัส ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พ.ย.64 องค์การอนามัยโลกยังจับที่สายพันธุ์ 4 ตัวเดิม คือ แอลฟา แกรมมา เดลต้า และเบต้า ส่วนสายพันธุ์มิว และแลมดา ก็ยังเฝ้าติดตาม มีการพบสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529
“แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะมีการถอดรหัส พบ 10 ราย โดยพบที่บอสวานา 3 ราย ฮ่องกง 1 ราย แอฟริกาใต้ 6 ราย โดยมีการกลายพันธุ์ 32 จุด ที่เกี่ยวข้องกับสไปรท์โปรตีน ซึ่งเป็นตัวที่เข้าสู่เซลล์ทำให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้นำสไปรท์โปรตีนไปผลิตวัคซีน แต่หากตรงนี้กลายพันธุ์จนเพี้ยน อาจจะทำให้เชื้อหลุดรอดจากวัคซีนที่ฉีด แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม” ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ คณบดีศิริราชพยาบาล กล่าวว่า สำหรับข้อพิจารณา และแนะนำในการเปิดประเทศ ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำได้ดี พบว่าฉีดวัคซีนแล้วร้อยละ 70 ขณะนี้สถานการณ์สงบ ปลอดภัย การเปิดประเทศสามารถทำได้ดี ประเทศอิสราเอลเช่นกัน ที่มีอัตราการติดเชื้อหลักพันราย แต่เสียชีวิตต่ำ ซึ่งการที่เราจะสามารถเปิดประเทศได้ดี อยู่ที่การมีวินัยของทุกฝ่าย คงมาตรการป้องกันตัวเอง ป้องกันการแพร่ระบาดของทุกฝ่าย โดยเข้ารับการฉีดวัคซีน หากพบมีสัญญาณระบาด ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงมาตรการอย่างรวดเร็ว และชัดเจน
“ดังนั้น สวมหน้ากากถูกวิธี เว้นระยะห่าง ล้างมือ รายงานตัว และตรวจหาเชื้อเมื่อมีความเสี่ยง หากทำได้ เราก็จะปลอดภัยมากขึ้น สิ่งสำคัญคือ อย่าให้ 4 เสี่ยงมาเจอกัน คือเวลาเสี่ยง บุคคลเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง โดยในช่วงเวลาเสี่ยงคือเดือน ธ.ค. ที่เราหยุดยาว มีเทศกาล และอากาศเย็นลง ย้ำผู้ประกอบการอย่าทำสถานบริการของท่านให้เป็นสถานที่เสี่ยง และมีกิจกรรมเสี่ยง อย่าให้มีคนเสี่ยง จึงต้องให้ฉีดวัคซีน และสวมหน้ากาก ประชาชนก็อย่าทำให้ตัวเองเป็นคนเสี่ยง และเข้าไปในสถานที่เสี่ยง หากเราช่วยกัน ปีใหม่เราสามารถเปิดปีใหม่ได้อย่างมีความสุข แต่หากไม่ร่วมกัน เราก็จะเจอเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เจอ วันนี้ เราไม่มีความจำเป็นต้องย้อนกลับไปปิดประเทศอีก ดังนั้น เราต้องช่วยกัน เพื่อให้ทุกคนอยู่ได้ เศรษฐกิจเดินหน้าได้” ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว