ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษากลับ ยกฟ้อง
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา”หมิ่น” น้องโบกรณีคลิ๊ปฉาว
วันนี้เวลา 9,30 น.ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษา คดี หมายเลขแดงที่ 2423 /2563 คดีระหว่าง นางสาวณัชฐา หรือน้องโบ มหัทธนา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา เป็นจำเลยต่อศาลอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา “กรณี คลิ๊ปฉาว ที่จำเลยนำไปออกอากาศและเป็นผู้ดำเนินการสำนักข่าววิหกนิว ว่า “เรื่องคลิ๊ป”ไม่ใช่สาระ
แต่เป็นประเด็นที่คนไทยกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็แล้วกัน ที่เป็นนักประชาธิปไตย ผมไม่ได้ระบุถึงใครนะ และก็ไม่ได้หมายความว่าใคร นะครับ แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าใครอยู่เบื้องหลัง องค์กรเหล่านี้ได้รับสนับสนุนจากเงินต่างประเทศ มูลนิธิพ่อมดการเงิน มีเครือข่ายในเอเชียพม่าและบังคลาเทศ ลาว
ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ เพื่อแบ่งแยกดินแดน
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า”ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวนั้น จำเลยมีเจตนาใส่ความโจทก์ต่อบุคคลทั่วไป ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้รับชมรายการของจำเลยเข้าใจว่า โจทก์รับเงินจากต่างประเทศ หรือรับเงินจากนักโกงเมืองโดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อแบ่งแยกการปกครอง
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 328ให้จำคุก 1ปี ปรับ
100,000.00บาท (หนึ่งแสนบาท)ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง กรณีมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 78
คงจำคุก 9เดือน ปรับ 75.000บาท โทษจำคุกให้รอการลงอาญา 2ปี ให้จำเลยโฆษณา หนังสือพิมพ์แพร่หลายจำนวน 1 ฉบับเป็นเวลาติดต่อกัน 3วัน โดยค่าใช่จ่ายของจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ ของให้ลงโทษจำเลยตามกฏหมายไม่มีเหตุรอการลงโทษ
จำเลยอุทธรณ์ ของให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า พยานทุกปากเบิกความไปในทำนองเดียวกัน ถึงชายหญิงคู่หนึ่งที่มีความสัมพันกันนั้น ไม่มีความหมายใดแสดงให้เห็นว่าจำเลยยืนยันข้อเท็จจริงตามเอกสารที่โจทก์ถอดเทปว่า เป็นโจทก์ การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง
ความผิดฐาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต้องพิเคราะห์จากข้อความที่เผยแพร่ ว่าบุคคลที่กล่าวอ้างเป็นผู้ใด
คำว่าโกงเมือง จำเลยก็ไม่ได้ระบุถึงใคร แต่จำเลยกับยืนยันว่าไม่ได้หมายถึงโจทก์ จำเลยได้อ้างในอุทธรณ์ว่า เป็นหน้าที่ของจำเลยในฐานะสื่อมวลชน
ให้ปรากฏ ทั้งนี้นักการเมืองโกงกินไม่ใช่เพียงข้อเท็จจริงที่ประชาชนควรทราบเท่านั้น ยังมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
นอกจากจะนำความเสื่อมเสียต่อศรัทธาของประชาชนแล้ว ยังเสื่อมเสียต่อนักการเมืองอื่นๆที่กระทำโดยสุจริต จำเลยในฐานะสื่อมวลชนก็ต้องนำเสนอข่าว ให้ข้อเท็จจริงต่อสาธารณะชน จำเลยได้กระทำไปโดยสุจริต จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น “พิพากษากลับ “ยกฟ้อง”
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนาได้เปิดเผยว่า คดีต้องขอขอบพระคุณ ท่าน
ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชียวชาญด้านกฏหมาย ที่ให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือเขียนอุทธรณ์คดีนี้ให้ และเดินทางมาศาลให้กำลังใจในวันนี้ จึงกราบขอบพระคุณมานะโอกาสนี้