5 ม.ค.2565 – จากกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว The Room 44 ประเมินสถานการณ์ปี 2565 โดยวิจารณ์รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ และจุดจบรัฐบาล ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แล้วไม่ได้เลือกกลับมา เป็นจุดจบที่สวยงามที่สุด และมั่นใจว่าปีนี้ตนจะได้เดินทางกลับประเทศไทย
โดยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้ว่าตลอดการบริหารบ้านเมือง นายกฯได้เข้าใจปัญหาของประชาชนเป็นอย่างดี ไม่แพ้อดีตนายกฯคนอื่นรวมถึงนายทักษิณ และที่ผ่านมายังยืนยันว่านายกฯ ได้แก้ไขปัญหาไปหลายอย่างแล้ว และแก้ไขปัญหาได้มากกว่า หากเทียบกับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวนายทักษิณ ที่มัวแต่เอาเวลาบริหารงานไปช่วยเหลือพี่ชายกลับประเทศ จนลืมความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรชาวนา
อีกทั้งการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ส่วนปัญหาด้านเศรษฐกิจนายทักษิณต้องยอมรับว่าทั่วโลกประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน แต่นายกฯ และรัฐบาลได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาต่อเนื่องจนสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ
นายเสกสกล ระบุว่า นายทักษิณ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่ามีแต่ตัวเองที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี และเก่งอยู่คนเดียว ทำงานแก้ไขปัญหาประเทศได้หมด แต่เป็นคนขี้โกง ทุจริต มีคดีติดตัวจนหนีออกไปอยู่ต่างประเทศ ประชาชนในประเทศก็ไม่เอาเช่นเดียวกัน แบบนี้ถามกลับว่าน่าภาคภูมิใจตรงไหน ส่วนที่บอกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ครึ่งปีหลัง ขออย่าทำตัวเป็นหมอเดา นายกฯเคยออกมายืนยันหลายครั้งแล้วว่าไม่ยุบสภาฯ หรือลาออก ยังต้องอยู่ครบเทอมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
“นายทักษิณ คงอยากกลับประเทศมาก จนคิดว่านายกฯจะลาออก หรือยุบสภาฯ แล้วพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลและพาตัวเองกลับบ้าน คงฝันหวานอยู่ เห็นพูดมาหลายครั้งแล้ว และหากอยากทำประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง และอยากออกรอบตีกอล์ฟกับนายกฯประยุทธ์ ก็ขอให้กลับมาแล้วไปซ้อมในคุกกรมราชฑัณฑ์ก่อนดีกว่า ขอให้รับโทษที่ก่อเอาไว้ก่อน นายกฯประยุทธ์คงไม่อยากตีกอล์ฟกับนักโทษหนีคดี”
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ถ้ากลับมานายทักษิณบอกจะกระซิบลูกสาว น้องอุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยเป็นคนแรก คงไม่เห็นหัวหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเลยหรืออย่างไร จึงไม่ยอมบอก คงกะว่าจะให้ลูกสาวเป็นนายกฯเสียเองแล้วสั่งให้ ออกกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอยอีก ล้างคดีและช่วยให้นายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ กลับประเทศ เหมือนที่เคยทำมาแล้ว จนประชาชนออกมาไล่เต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งคิดเช่นนั้นอีก บ้านเมืองก็คงกลับมาวุ่นวายเหมือนเดิม คราวนี้สงสัยประชาชนจะออกมาไล่มากกว่าเดิมหลายเท่าเป็นแน่
นายเสกสกล กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่นายทักษิณกำลังทำตัวเป็นหมอดูอยู่ในขณะนี้ มันสะท้อนชัดเจนว่า นายทักษิณนั้นอยากกลับมาประเทศไทยเสียเต็มที อันที่จริงเรื่องกลับบ้านนั้นตนเองก็บอกหลายครั้งแล้วว่าไม่มีใครไม่ให้นายทักษิณกลับมา แต่ที่ผ่านมานายทักษิณ เลือกที่จะไม่กลับมาเองใช่หรือไม่ เป็นเพราะกลัวว่ากลับมาแล้วต้องมาติดคุกติดตะราง จึงอยากกลับมาอย่างเท่ ๆ โดยอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งอย่าได้หวังอีกเลย ถ้าจะกลับมาโดยไม่ต้องรับโทษ เพราะคนไทยเขาไม่ยอมเด็ดขาด ยกเว้นเสียว่ากลับมารับโทษ เข้าคุกก็อาจจะยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง
ส่วนเรื่องที่นายทักษิณ นั้นทำนายเรื่องการเป็นอยู่รัฐบาล อันนี้ก็ดูเหมือนว่านายทักษิณ น่าจะแก่เกินการรับรู้สิ่งใหม่ ๆ แล้ว หรือไม่อย่างนั้นก็มีลูกน้องที่คอยสอพลอรายงานเท็จให้นายทักษิณรายวัน เพราะที่ผ่านมาผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ก็ชัดเจนว่านักการเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเวลานี้ก็ยังเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และประชาชนคนไทยก็ยังคงเชียร์ ให้นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย เพราะที่ผ่านมาทำงานเพื่อบ้าน เพื่อเมือง มือสะอาดปราศจากการคดโกง และที่สำคัญไม่เล่นการเมือง แต่ทำงานเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนอย่างบริสุทธิ์ใจ ผิดกับนายทักษิณและบริวาร ที่เล่นการเมืองได้ทุกเวลา แม้ในช่วงเวลาที่ประชาชนกำลังยากลำบากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่คนของนายทักษิณ รวมถึงนายทักษิณ ยังคงเล่นการเมืองได้ทุกวัน ไม่เคยคิดหยุดพูดเพื่อให้บ้านเมืองสงบ ปากบอกรักบ้านเมืองรักประเทศไทย ไม่รู้รักแบบภาษาอะไรกัน รักหรือทำลายกันแน่
“มัวแต่จะดูดวงชะตาคนอื่น อย่าลืมดูดวงชะตาของตัวเองเสียบ้าง ไม่รู้ชาติไหนจะได้กลับ อายุก็มากแล้วไม่รู้จะได้อยู่เห็นหน้าลูกหลานอีกนานแค่ไหน ช่วยดูต่อไปว่า เวรกรรมที่ทำเอาไว้กับประเทศ ประชาชน มันมากมาย ตั้งแต่เหตุการณ์ฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติด เหตุการณ์กรือเซะ เหตุการณ์ตากใบ นายทักษิณจำได้ไหมว่า ได้ทำลายชีวิตคนไทยไปกี่ร้อยชีวิต ยังไม่รวมชาวนาจากโครงการรับจำนำข้าวที่นายทักษิณเป็นต้นคิด น้องสาวเป็นคนทำ ที่ต้องผูกคอตายไปกี่ราย จากการดำเนินนโยบายของพรรคเพื่อไทย และบริวาร พวกพ้องนายทักษิณ ดังนั้นก่อนดูดวงชะตาคนอื่น ก็ช่วยดูดวงชะตาตัวเองเสียก่อนจะดีที่สุด” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าว.