ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อกทุกส่วนของกัญชา กัญชง พ้นยาเสพติด ยกเว้น ช่อดอก และเมล็ดกัญชา พร้อมชูเป็นพืชเศรษฐกิจ
…………………\\\\\\\\\\……………………
โดย ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม นักวิชาการด้านกฏหมาย ศึกษากรณี ปลดล๊อกกัญชา พ้นยาเสพติด
ข่าวปัญหาการปลูกกัญชาผิดกฎหมายหรือส.ส.พรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวว่า ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมายแล้ว หากใครถูกจับให้มาบอกจะช่วยเหลือทันที
นอกจากนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยแถลงข่าว รองเลขาธิการ ป.ป.ส.ก็ออกมาโต้ทันที ว่า กัญชา ยังเป็นยาเสพติดอยู่ ใครปลูกต้องได้รับอนุญาตตามเงื่อนไข หากไม่ได้รับอนุญาต จะต้องถูกจับ ดำเนินคดีทันที นั้น เห็นว่า กฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2522 ฉบับเดิม ระบุชัดเจนว่า มาตรา 7 ให้ยาเสพติดให้โทษแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ ประเภท 1 เช่น เฮโรอีน และ ประเภท 5 เช่น กัญชา พืชกระท่อมก็ตาม
แต่หลังจากประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ มีผลบังคับใช้ วันที่ 9 ธ.ค. 64 ซึ่งในหมวดยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ไม่มีชื่อ “กัญชา” อยู่ในยาเสพติดประเภท 5 แต่อย่างไร นั้น
แต่กฏกระทรวงตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อกทุกส่วนของกัญชา กัญชง พ้นยาเสพติด ยกเว้น ช่อดอก และเมล็ดกัญชา พร้อมชูเป็นพืชเศรษฐกิจ ชึ่งได้ลงในราชกิจจานุเบิกษา แล้ว
เหตุที่ยังปลดทุกส่วนของต้นกัญชา ออกจากยาเสพติดไม่ได้นั้น เนื่องจากติด อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติด และวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ค.ศ. ๑๙๘๘ มีปัญหาเรื่องหลักดินแดน และการรอนสิทธิ นั้นย่อมกระทำมิได้
เมื่อประเทศไทย ปลดล๊อกกัญญา ออกจากยาเสพ แล้ว อนุสัญาญาที่ทำไว้กับนานาประเทศ ก็ระบุว่า สามารถ “ยกเลิกได้ กฏกระทรวงที่ออกมาขัดและแย้งกับกฏหมายแม่บท ย่อมบังคับไม่ได้
การปลูกกัญชาที่กฏหมายบัญญัติยกเลิกเป็นยาเสพติดแล้ว การกระทำไม่ว่าจะปลูกหรือมีไว้ในครอบครอง หรือจำหน่ายจ่ายแจก ย่อมไม่เป็นความผิด
ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม