ครม.เห็นชอบข้อเสนอพีมูฟ 15 กรณี ยอมรับเป็นเรื่องนโยบาย-กม.ต้องพิจารณารอบคอบ ขณะที่ม็อบพอใจ แต่ขอปักหลักฟังผลต่อ “เสี่ยแฮงค์” ยันเห็นชอบตามที่ตกลงทุกตัวอักษร แก้ไขปัญหาภาพรวมทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า กลุ่มผู้ชุมนุมขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ออกแถลงการณ์ 3 ข้อ เนื้อหาเป็นการติดตามผลการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2565 ตามข้อเรียกร้องทั้ง 15 กรณีของกลุ่ม พร้อมปักหลักชุมนุมที่บริเวณแยกพาณิชยการ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอฟังผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่าจะเห็นชอบตามข้อเรียกร้องหรือไม่
ทางด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหา ขปส. 15 กรณี เช่น เห็นชอบให้ยกระดับโฉนดชุมชนให้เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดที่ดิน เห็นชอบกับแนวทางปัญหาด้านคดีความกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม กับคณะทำงานศึกษาร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐ พิจารณาแนวทางทบทวนกฎหมาย เช่น ร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 รวมถึงเห็นชอบข้อเสนอแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยในที่ดินของ รฟท.ทั่วประเทศ
พร้อมทั้งเร่งรัดร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ แก้ไขพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน และแก้ไขปัญหาการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา และปรับปรุงที่อยู่อาศัย อีกทั้งเห็นชอบให้ปรับปรุงองค์ประกอบคณะทำงานศึกษาร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายจากนโยบายรัฐ แก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐโดยมีการกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการและการรายงานผลที่ชัดเจน นอกจากนั้นยังเห็นชอบการยกระดับแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและชาวกะเหรี่ยง และเห็นชอบตามข้อเรียกร้องของกลุ่มบางกลอยคืนถิ่น และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสถานะและสิทธิของบุคคล เป็นต้น
น.ส.รัชดากล่าวด้วยว่า มีหลายกรณีเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการในระดับนโยบาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้ความเห็นประกอบการนำเสนอแนวทางการอย่างละเอียดรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายกรณีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณที่ชุมนุม เวลา 14.00 น. ตัวแทนกลุ่มเซฟบางกลอยเคลื่อนขบวนมาประชิดแนวกั้นลวดหนามและแผงเหล็กเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมประกาศให้เจ้าหน้าที่เปิดทางเพื่อจะเข้าไปยื่นหนังสือถึงนายกฯ โดยระบุว่าได้ประสานกับนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพีมูฟ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หนังสือที่กลุ่มเซฟบางกลอยจะยื่น ลงนามโดย นายจำนงค์ หนูพันธุ์ ประธานพีมูฟ เรื่องขอให้นายกฯ ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมนุมกะเหรี่ยงบางกลอย เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ร่วมทั้งการพัฒนาฟื้นฟูคุณภาพชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมเปิดทางให้ ทำให้เกิดการผลักดันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน หรือ คฝ. โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามตัดลวดหนามและสายคล้องแผงเหล็กเพื่อเปิดทาง จึงทำให้เกิดการปะทะ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเจ้าหน้าที่ยอมให้ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 2 คนผ่านทะลุเข้ามาอีกด้านของตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล
จนกระทั่งเวลา 17.07 น. นายอนุชา ได้ลงมามาพบปะกับนั่งลงบนกลุ่มผู้ชุมนุม และได้นั่งบนพื้นถนนพูดคุย โดยกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ตนได้คุยกับพล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตร ว่าทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหาของประเทศได้ และเต็มใจที่จะร่วมงาน พูดคุยกับแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม ในการรับข้อเรียกร้อง หรือข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุม และได้ส่งตัวแทนเข้าไปพูดคุย ประชุมร่วมกัน จนได้ข้อสรุป ในข้อเรียกร้องทั้ง 15 ประเด็น ที่ประชุมได้หารือหลายเรื่องในการจัดสรร ที่ดินทำกินและให้โอกาสกับพี่น้องประชาชน
นายอนุชากล่าวว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาของประเทศที่เรื้อรังมายาวนาน ได้ยินปัญหามาตั้งแต่ก่อนลงการเมือง ได้เห็นประชาชนมาเรียกร้อง รัฐบาลในฐานะกำกับดูแลนโยบายได้ทำงานให้กับคนไทยทุกคน ไม่เลือกเป็นการเฉพาะ อะไรที่ทำแล้วปัญหาของประเทศสามารถทุเลาเบาลง และแก้ไขปัญหาประเทศได้อย่างยั่งยืนจะปฏิบัติอย่างเต็มที่ โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลก็เป็นห่วงในปัญหาที่เกิดขึ้น
นายอนุชากล่าวว่า สำหรับ 15 ข้อเรียกร้องมีข้อยุติที่ตรงกันก็จะต่อ ครม.ตามนั้น ไม่มีผิดแม้แต่ตัวอักษรเดียว ยืนยันด้วยเกียรติของตนเองและในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ว่าทุกข้อที่มีการคุยกันไม่มีการตัดทอนแม้แต่ตัวอักษรเดียว ขอให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ตกลงกับตัวแทนของประชาชน ที่ได้ร่วมกันประชุมทุกข้อ เรามีการสรุปร่วมกันให้เป็นไปในกรอบของส่วนรวมและของประเทศชาติเพื่อประโยชน์ของประชาชน สิ่งเหล่านี้เป็นคำตอบที่เราจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนให้ลุล่วงในอนาคตอันใกล้ และข้อเรียกร้องเหล่านี้จะได้นำไปรีบประชุม โดยจะเริ่มประชุมตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.นี้ ไม่ต้องรอ เพื่อแสดงความจริงใจต่อพี่น้องทุกคน
“ผมไม่ได้เกิดมารวย ไม่ได้เกิดมามีอันจะกินแบบคนอื่น ผมขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี มีความเข้าใจในปัญหา รู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต กับความลำบากและความต้องการหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนพวกเราทุกคน จึงตั้งใจที่จะทำ เราคือคนไทยด้วยกัน จะช่วยกันนำพาให้พ้นทุกข์ พ้นความเดือดร้อน ผมจะช่วยขจัดทุกข์ให้กับทุกคนเท่าที่จะทำได้” นายอนุชากล่าว
โดยหลังจากชี้แจงเสร็จสิ้น นายอนุชาได้สวมกอดชาวบ้าน ขณะที่แกนนำได้ประกาศยืนยันจะชุมนุมปักหลักที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อรอติดตามการแก้ปัญหาของรัฐบาลในการประชุม ครม. วันอังคารที่ 8 ก.พ.นี้อีกครั้ง.